7 อาหาร “ต้องงด” เมื่อรู้สึกเหนื่อยง่ายหรือมีต่อมไทรอยด์มีปัญหา
ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกเหนื่อยง่าย ท้อแท้ เพลีย นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาที่มาจากไทรอยด์ กว่า 60% ของชาวอเมริกันเจอปัญหานี้ ข้อมูลจาก American Thyroid Association
ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกเหนื่อยง่าย ท้อแท้ เพลีย นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาที่มาจากไทรอยด์ กว่า 60% ของชาวอเมริกันเจอปัญหานี้ ข้อมูลจาก American Thyroid Association
หลายๆคนอาจคาดเดาเมื่อร่างกายเริ่มรู้สึกไม่สบายว่า อาจจะเกิดจากการเสื่อมสภาพหรือมีบางสิ่งผิดปกติกับต่อมไทรอยด์ ว่ากันว่าจะเกิดอาการอ่อนเพลียและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ความจริงต่อมไทรอยด์ทำหน้าที่อะไรกันแน่ และทำให้เรามีอาการแบบนี้จริงหรือ?
การที่น้ำหนักลดไปมากกว่า 5% ของน้ำหนักทั้งหมด ภายใน 6 เดือน โดยทั่วไปถือว่าปกติ อย่างไรก็ตามหากเพื่อนๆ สังเกตเห็นว่าน้ำหนักลดมากเกินกว่าที่ระบุไว้ในแผนการลดน้ำหนัก ควรต้องไปพบแพทย์นะ
“ฮอร์โมนไทรอยด์” เป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยควบคุมกระบวนการเผาผลาญ และการใช้พลังงานต่างๆ ภายในร่างกาย ทั้งนี้ ถ้าร่างกายมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์สูงขึ้น จะทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญมากขึ้น เสมือนร่างกายทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา หรือที่เรียกว่า “ไทรอยด์เป็นพิษ”
“ไทรอยด์”คือ ต่อมไร้ท่อขนาดที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ไม่แปลกที่โรคของต่อมไทรอยด์นั้น จะมีมากมายหลายชนิด และมักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ โดยพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ9-10 เท่า หนึ่งในโรคซึ่งเกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ที่สาวๆ ต้องระวัง คือ“โรคไฮเปอร์ไทรอยด์”
เป็นโรคทางระบบต่อมไร้ท่อที่พบได้บ่อยในเด็ก เป็นสาเหตุของภาวะปัญญาอ่อนที่สามารถป้องกันได้ มักจะยังไม่แสดงอาการเมื่อแรกเกิด แต่จะชัดเจนเมื่อทารกอายุมากขึ้น ว่าแล้วมาทำความรู้จักและสังเกตอาการของโรคนี้เพื่อรักษาแต่เนิ่น ๆ กันค่ะ
สื่อออนไลน์เข้าถึงได้ง่าย แถมการค้าขายผ่านโลกโซเชียลก็รวดเร็วเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ไม่แปลกที่หลายคนจะตกเป็นเหยื่อการโฆษณาเกินจริงของสินค้าต่างๆโดยเฉพาะเรื่องความสวยความงาม ที่มาวินติดอันดับต้องยกให้บรรดายาลดน้ำหนักต่างๆ และเพราะความมักง่ายของผู้ผลิต บ่อยครั้งยาเหล่านี้มักจึงมีส่วนผสมของยาอันตราย และยาควบคุมพิเศษ
โรคเกรฟส์(Graves’ disease) หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อไทยๆ แบบตรงตัวว่า “โรคคอพอกตาโปน” เป็นโรคที่พบในคนอายุ 20-40 ปี มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โรคนี้จัดเป็นโรคภูมิต้านตนเองชนิดหนึ่ง มักมีต่อมไทรอยด์โตแบบกระจายและมีอาการตาโปน(exophthalmoses)ร่วมด้วย เนื่องจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหลังลูกตาอ่อนกำลังลง