โรคหูดข้าวสุก(Molluscumcontagiosum)เป็นโรคที่ยังคงพบได้อยู่สม่ำเสมอ เนื่องจากโรคสามารถติดต่อโดยการสัมผัสทางผิวหนัง อัตราการเกิดโรคพบมากขึ้นในประเทศเขตร้อน โดยโรคหูดข้าวสุกสามารถพบได้ทุกวัยพบมากในเด็กที่ช่วงอายุ 1-10 ปี ส่วนในผู้ใหญ่หูดข้าวสุกที่บริเวณอวัยวะเพศถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง
เวลาที่อากาศเปลี่ยนหรืออากาศแห้งเย็นในช่วงฤดูหนาวแล้วผิวลอกเป็นขุยๆ หน้าเป็นผื่นและเกิดสิวขึ้นมา เรามักคิดว่าปัญหาเหล่านี้คืออาการผิวแห้งและแพ้อากาศหนาว ซึ่งในบางรายอาจร้ายแรงกว่านั้นโดยที่เราไม่เคยรู้ว่า ผิวของเราเข้าสู่การอักเสบจนเป็น “โรคเซ็ปเดิร์ม”
อากาศช่วงฤดูหนาวมักมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยอยู่เสมอนอกจากอุณหภูมิที่ต่ำลง บางครั้งอาจมีฝนตกบ้างให้ชุ่มฉ่ำ หรือในเวลาใกล้ๆ เที่ยงกลับมีแสงแดดที่แรงจัด เหล่านี้อาจเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน นำไปสู่อาการเจ็บไข้ได้ป่วย หนึ่งในนั้นคือ “โรคหัดเยอรมัน” ซึ่งเป็นโรคผิวหนังยอดฮิตอันดับต้นๆ ที่มักมาพร้อมกับลมหนาว
ฟังแค่ชื่อก็ไม่น่าพิสมัย ยิ่งเห็นอาการของโรค เชื่อว่าหลายคนคงขยาด โดย “โรคเรื้อน” เป็นโรคที่เราได้ยินกันมานานนม แม้จะคุ้นหูแต่เชื่อว่าหลายคนก็คงไม่รู้จักโรคนี้ดีพอ ทั้งยังคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวมากๆ แต่รู้หรือเปล่าว่า ในรอบปี 2558 นี้ ในบ้านเราพบผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ในคนไทยถึง155 รายทีเดียว
อุณหภูมิที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง เมื่อผิวหนังเจอกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น ต่อมไขมันใต้ผิวหนังจะสูญเสียความชุ่มชื่น แห้งกร้านและขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้เกิดการลอกและคันบริเวณผิว เมื่อมีการเกาที่บ่อยและรุนแรงจะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นถลอกเป็นแผล เกิดการบวม อักเสบ เสี่ยงต่อการติดเชื้อตามมา และเป็นต้นตอของโรคผิวหนังเรื้อรัง
ย่างเข้าสู่การผลัดเปลี่ยนฤดู เดี๋ยวก็ร้อนสักพักก็มีฝน อีกไม่นานลมหนาวก็พักผ่านผิวอีก เช่นนี้คือตัวการที่นำไปสู่อาการเจ็บป่วยได้ สมาคมโรคผิวหนังแห่งประเทศไทยจึงให้คำแนะนำเพื่อเป็นความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโรคผิวหนัง 7 โรค สำคัญที่ควรระวัง ดังนี้…
“โรคเริม” เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัส ชื่อ “เฮอร์ปีส์” (Herpes simplex)ซึ่งเชื้อไวรัสตัวนี้มีอยู่ 2 ชนิด คือ ชนิด 1 (HSV-1) ชนิดที่ทำให้เกิดแผลบริเวณริมฝีปาก รวมถึงผิวหนังเหนือสะดือขึ้นไปและชนิด 2 (HSV-2) ชนิดที่มักจะพบบริเวณอวัยวะเพศ โรคเริมเป็นโรคติดต่อพบได้ในทุกวัย แต่พบได้บ่อยกว่าในวัยหนุ่มสาวและในวัยผู้ใหญ่
ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเวลาหมอวินิจฉัยโรคถึงได้มองออกจากอาการภายนอกเท่านั้น หากคุณมีอาการเหล่าอยู่ รู้ไว้เลยว่ามันอาจจะไม่ใช่อาการทางผิวหนังปกติ
เมื่อไม่นานนี้การเปิดเผยข้อมูลสถิติจากสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบข้อมูลที่น่าสนใจก็คือ มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วย “โรคสะเก็ดเงิน” มากเป็นอันดับ 1 นั่นหมายความว่าในบ้านเรามีผู้ป่วยด้วย “โรคสะเก็ดเงิน” จำนวนมาก เรื่องใกล้ตัวขนาดนี้ ปล่อยผ่านได้หรอก ว่าแล้วก็ไปทำความรู้จักโรคผิวหนังยอดนิยมโรคนี้กัน!!
“ลมพิษ” เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกันดีและมีจำนวนไม่น้อยที่เคยมีอาการดังกล่าว เพราะเป็นโรคที่เป็นกันได้ทุกเพศและทุกวัย ลมพิษคืออะไร มีสาเหตุอย่างไร อาการเป็นเช่นไร และมีวิธีรักษาอย่างไร คำตอบอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว