นอกเหนือจากการออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร ซึ่งถือเป็นวิธีหลักๆ สำหรับคนที่จะลดน้ำหนักแล้ว ยังมีปัจจัยใหญ่ๆ อีก 2 ปัจจัยที่เพื่อนๆ จะมองข้ามไม่ได้ หากต้องการไปถึงเป้าหมายของการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือ การนอน ความเครียด แล้วทั้ง 2 อย่างนี้ ส่งผลต่อการลดน้ำหนักอย่างไร? สดสวยมีคำตอบมาฝากกันในบทความนี้ค่ะ การนอน มีการศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า…
หากเพื่อนๆ กำลังหมดกำลังใจจากการพยายามลดไขมันหน้าท้อง เนื่องมาจาก “การเผาผลาญช้าลง” เพราะปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากอายุที่เพิ่มขึ้น บวกกับไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องสุขภาพและอาหาร เมื่อเราพูดถึง “เมแทบอลิซึม” หรือระบบเผาผลาญ เราหมายถึงอัตราการเผาผลาญซึ่งเป็นวิธีที่ร่างกายเปลี่ยนสิ่งที่เรากินและดื่มไปเป็นพลังงานที่ใช้งานได้ และเก็บพลังงานนั้นไว้เพื่อใช้ในภายหลัง แต่อย่าเพิ่งล้มเลิกความตั้งใจที่ลดน้ำหนักและกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง เพราะยังมีคำแนะนำที่จะช่วยให้การเผาผลาญของเพื่อนๆ กลับมาดีขึ้น ส่วนจะเป็นวิธีไหนบ้างนั้น ตามสดสวยมาดูกันเลยค่ะ 1.การลดการรับประทานอาหารเล็กๆ น้อยๆ วิธีนี้ทำให้มีผลในเชิงบวก…
นอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมงและมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวันมีความเกี่ยวข้องกับภาวะ Metabolic Syndrome หรืออาการ “อ้วนลงพุง” งานนี้มีงานศึกษาที่สนใจได้เปิดเผยไว้!
เพราะว่าปัจจัยสำคัญมากๆ อีกอย่างของการลดน้ำหนักแบบได้ผล ก็คือ การควบคุมอาหาร นั่นเอง เมนูสำคัญที่ขาดไม่ได้ “ผักและผลไม้” และในบทความนี้สดสวยมีผลไม้ที่ควรค่าแก่การมีติดตู้เย็นไว้ในช่วงลดน้ำหนักมากที่สุด มาฝากกัน บางรายการอาจมีราคาสักหน่อยแต่ถ้าใครพอมีงบ บอกเลยว่าต้องจัดค่ะ!
ระบบเผาผลาญภายในร่างกายเป็นระบบสำคัญที่จะช่วยในการเปลี่ยนสารอาหารที่ได้รับให้เป็นพลังงาน เพื่อให้ร่างกายได้นำไปใช้ในการเคลื่อนไหว ผู้ที่มีระบบเผาผลาญที่มีประสิทธิภาพจึงสามารถควบคุมน้ำหนักตัวได้ดี สาวๆที่อยากมีรูปร่างดีจึงควรรู้วิธีที่จะให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้นดังต่อไปนี้
สำหรับคนที่ลดน้ำหนักและกำลังมองหาท่าฟิตแอนด์เฟิร์มที่จะช่วยให้ระบบการเผาผลาญดีขึ้น สดสวยได้รวบรวม 8 ท่าที่จะช่วยให้การลดความอ้วนของเพื่อนๆ เห็นผลและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ระบบการเผาผลาญหรือที่เรียกกันว่า “Metabolism” ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญมากต่อร่างกายของเรา ถ้าเรามี Metabolism ที่ไม่ดีหรือการทำงานของ Metabolism ช้าลง ก็จะทำให้เราอ้วนขึ้น