อินซูลินเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำงานที่ตับอ่อน ช่วยย้ายน้ำตาลจากเลือดไปยังเซลล์สำหรับการจัดเก็บ เมื่อเซลล์ต้านทานอินซูลินไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นนั่นเอง
โรคเบาหวานนั้นอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างโรคหัวใจและหลอดเลือด เมื่อปี 2017 พบว่าคนไทย 11 คนจะเป็นเบาหวาน 1 คน มันจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวานนั้นมาจากการเสียสมดุลของการใช้น้ำตาลในเลือด
ถึงจะมีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ทุกงานวิจัยจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องของการควบคุม การลดน้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอลหรือความดัน ในการศึกษาใหม่ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน New England Journal of Medicine
เบาหวาน เป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิต แต่คนกลับไม่ค่อยหวั่นกลัว เพราะมักไม่แสดงอาการของโรค หรือมีอาการเพียงเล็กน้อยอย่างช้าๆ แต่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง สามารถส่งผลให้ไตเสื่อม ตาบอด เป็นโรคปลายประสาทเสื่อม เกิดแผลที่เท้าเปื่อยเรื้อรัง ต้องถูกตัดเท้า หรือเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
เนื่องในวันเบาหวานโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี จึงอยากให้ทุกคนตระหนักถึงความรุนแรงและรู้เท่าทันโรคเบาหวานก่อนจะสายเกินไป เพราะด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป บวกกับเมนูรสหวานที่มีให้เลือกทานได้ง่ายดาย ทั้งบิงซู ไอศกรีม เครื่องดื่มรสหวาน ขนมเค้ก และอีกมากมาย ล้วนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณเกินความต้องการในแต่ละวัน นำไปสู่ความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน โดยเฉพาะในคุณผู้หญิง
อย่างที่มาดามเฮลท์ตี้ได้เคยให้ความรู้ในบทความ “เบาหวาน” โรคไม่เบา ที่เราต้องรู้ เบื้องต้นแล้วโรคเบาหวานนั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิดครับ แต่ชนิดที่น่ากลัวคือ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เหตุก็เพราะส่วนนึงที่ทำให้เกิดโรคมาจาก “พฤติกรรม” อย่างโรคอ้วน
“เบาหวาน” (Diabetes Millitus) เกิดจากตับอ่อนสร้าง “ฮอร์โมนอินซูลิน” (Insulin) ได้น้อย หรือไม่ได้เลย ฮอร์โมนชนิดนี้มีหน้าที่คอยช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลมาใช้เป็นพลังงาน เมื่ออินซูลินในร่างกายไม่พอ น้ำตาลก็ไม่ถูกนำไปใช้ ทำให้เกิดการคั่งของน้ำตาลในเลือดและอวัยวะต่างๆ