เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับการวิ่งกันมาบ้าง แต่มั่นใจหรือไม่ว่าความเชื่อเหล่านั้นเป็นความเชื่อที่ถูกต้อง ในบทความนี้สดสวยจะพาเพื่อนๆ ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อต่างๆ กันใหม่ เพื่อจะได้วิ่งได้อย่างถูกต้องตามหลักมากขึ้น และไม่เกิดปัญหาขึ้นในขณะวิ่งด้วยนั่นเอง ว่าแล้วมาดูกันดีกว่าว่า มีความเชื่อผิดๆ อะไรเกี่ยวกับการวิ่งบ้าง
เราไม่รู้หรอกว่าส่วนหลังและส่วนล่างของเรานั้นกำลังบอกอะไรเราอยู่ หลังจากที่เราใช้บั้นท้ายของตัวเองในการนั่งนานๆ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ การเคลื่อนไหวทั้งหมดเหล่านั้น อาจกำลังซ่อนโรค ความเสี่ยงหรือแม้แต่เรื่องดีๆ ที่เราคาดไม่ถึง ดังนั้น ในบทความนี้เฮียมีเรื่องราวที่ “ก้น” อยากกระซิบบอกให้เราได้รู้ว่า… คุณกำลังเสี่ยงอะไรอยู่!
มีความเป็นไปได้ว่าเพื่อนๆ ที่รักการออกกำลังกาย อาจรู้สึกเหนื่อยและหมดพลังเอาดื้อๆ ในการลุกขึ้นมาออกกำลังกายเช้าวันเสาร์ หลังจากที่สนุกสนานกับคืนวันศุกร์ไปอย่างเต็มที่ หรือแม้แต่พนักงานออฟฟิส มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่ทำงานมาทั้งวัน พอตกเย็นจะให้เข้าฟิตเนสก็รู้สึกอ่อนเพลียขึ้นมา แต่ที่สุดแล้วยังไงก็ต้องไป เพราะเรามันคนมีวินัย (ถูกมั้ยคะ? ^^)
ถ้าให้วางโปรแกรมออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก หลายๆ คนจะต้องคิดถึง “การวิ่ง” มาเป็นอย่างแรกอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะง่าย ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ให้มากแล้ว การวิ่งยังช่วยเผาผลาญไขมันได้สูงอีกด้วย
ใครว่าป่วยแล้วจะต้องนั่งๆ นอนๆ เสมอไป รู้หรือไม่ว่าผู้ที่มีโรคประจำตัวก็สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายด้วยการออกกำลังกายได้นะ!
เชื่อหรือไม่ว่า สิ่งเหล่านี้ “อาหาร” ช่วยได้นะ นอกจากช่วยเพิ่มพลังงาน พัฒนาประสิทธิภาพ พัฒนาเรื่องเวลาและความเร็ว ยังดีต่อสุขภาพและร่างกายด้วยนะ ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
“การวิ่ง” จึงเป็นการออกกำลังกายทางเลือกยอดนิยมมากที่สุดของคนยุคนี้ เพราะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากและลดน้ำหนักได้เหมือนกัน
คิดถึงภาพวิว ผู้คนและอื่นๆ วิธีที่ดีที่สุดในการได้เบิร์นไขมันและเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายด้วยการทำเพียงแค่อย่างเดียวนั่นคือ… “การวิ่ง” แต่เราไม่ได้กำลังพูดถึงการวิ่งบนลู่วิ่งแต่เป็นการออกไปวิ่งข้างนอก ซึ่งให้ความแตกต่างที่น่าตื่นตาตื่นใจและดึงดูดบางคนได้มากกว่า
รู้ค่ะว่า… การวิ่งที่เหมือนไต่เขาอยู่ตลอดเวลานั้นเป็นอะไรที่สุดจริงๆ เหนื่อยสุด ล้าสุด แต่เพื่อนๆ รู้หรือเปล่าค่ะ ว่าการวิ่งในระดับที่มีความลาดเอียงสูงนั้นเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ
เอามาฝากกันอีกจาก Popsugar.com กับตารางการวิ่งบนลู่วิ่งที่เบิร์นได้มากขึ้น แน่นอนว่า… เวลาก็เพิ่มขึ้นด้วย จาก 34 นาทีเป็น 45 นาที