รู้จักลมพิษและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ทำความรู้จักและวิธีป้องกันอาการลมพิษ ปัญหาแพ้ของคนยุคนี้ที่ทั้งกวนใจและอ่าจเป็นอันตราย
ทำความรู้จักและวิธีป้องกันอาการลมพิษ ปัญหาแพ้ของคนยุคนี้ที่ทั้งกวนใจและอ่าจเป็นอันตราย
ลมพิษมีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน และ มีสาเหตุการเกิดที่ต่างกัน แล้วหากเป็นลมพิษจะดูแลรักษาอย่างไร? ลมพิษสามารถจัดการได้อย่างไร?
“ลมพิษในเด็ก” เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย มีลักษณะเป็นผื่นคัน นูน แดง บวม มีขอบเขตชัด มักจะเกิดขึ้นและหายภายใน 24 – 48 ชั่วโมง และอาจเป็นซ้ำอีกได้ ถ้าเป็น ๆ หาย ๆ นานเกินกว่า 6 สัปดาห์ เรียกว่า “ลมพิษเรื้อรัง” เพื่อป้องกันไม่ให้เบบี๋ที่รักป่วยด้วยโรคลมพิษพ่อแม่ต้องรู้สาเหตุของโรคก่อนค่ะ
แม้คนส่วนใหญ่จะรู้จักโรคลมพิษ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าโรคลมพิษแบ่งออกได้หลายประเภท ทั้งยังมีความรุนแรงของอาการที่แตกต่างกัน ที่สำคัญหลายคนไม่ทราบว่าการกระทำหรือปัจจัยบางอย่าง อาจกระตุ้นให้ผื่นลมพิษเห่อขึ้น ไม่อยากเสี่ยงกับโรคลมพิษและอาการที่ทรุดหนักไปรู้จักโรคนี้แบบเจาะลึกกันเถอะ
ในต่างประเทศมีข้อมูลว่าโรคลมพิษชนิดเรื้อรังพบประมาณร้อยละ 0.5-1 ประชากร ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน แต่จากสถิติผู้ป่วยนอก แผนกผิวหนัง โรงพยาบาลศิริราชพบผู้ป่วยโรคลมพิษประมาณ 2-3%
เนื่องในวันที่ 1 ตุลาคม 2558 นี้ เป็นวันโรคลมพิษโลกเราจึงอยากพาคุณไปทำความรู้จัก “โรคลมพิษเรื้อรัง” ให้มากขึ้น เชื่อว่าหลายคนได้ยินชื่อโรคลมพิษเรื้อรังแล้วอาจคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แท้จริงแล้วโรคนี้เป็นภัยเงียบที่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด จากสถิติผู้ป่วยนอก แผนกผิวหนัง โรงพยาบาลศิริราช พบผู้ป่วยโรคลมพิษประมาณร้อยละ 2-3 ของผู้ป่วยที่มารับการรักษาโรคผิวหนังทีเดียว
“ลมพิษ” เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกันดีและมีจำนวนไม่น้อยที่เคยมีอาการดังกล่าว เพราะเป็นโรคที่เป็นกันได้ทุกเพศและทุกวัย ลมพิษคืออะไร มีสาเหตุอย่างไร อาการเป็นเช่นไร และมีวิธีรักษาอย่างไร คำตอบอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว
เพราะยุคนี้สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ไม่แปลกที่มีเวลาว่างปุ๊บหลายคนจะสวมวิญญาณสปอร์ตแมนสปอร์ตเกิร์ล ไปเติมความแข็งแรงให้กับร่างกายและจิตใจด้วยการเล่นกีฬา ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเล่นกีฬาให้ประโยชน์ที่ล้นเหลือ แต่ใช่ว่าจะไม่มีผลเสียเลยซะทีเดียว เพราะการเล่นกีฬาแบบเอ็กซ์ตรีมอาจนำมาซึ่งโรคต่างๆ ได้ ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักโรคที่มาพร้อมกับการเล่นกีฬากันเถอะ