การใช้ชีวิตรวมถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันตั้งแต่การเผชิญแสงแดดไปจนถึงการแสดงออกของสีหน้าท่าทาง หรือแม้แต่นํ้ายาทำความสาะอาดเสื้อผ้า รวมไปถึงมลภาวะ ควันต่างๆ อาจทำให้เราได้ผลกระทบความเสียหายต่อผิวหนังได้โดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งจะแสงออกตั้งแต่รูปแบบของรอยแดงไปจนถึงริ้วรอยที่เกิดขึ้น ในบางกรณีอาจมีผลก่อให้เกิดโรคผิวหนังต่างๆ ดังนั้นเราจึงลิสต์ที่สุดแห่ง 5 พฤติกรรมที่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพผิว ที่เมื่อคุณรู้แล้วสามารถเลือกที่จะหลีกเลี่ยงได้
รู้หรือเปล่าว่าผิว ถึงแม้จะไม่สามารถบอกคุณได้ด้วยคำพูด แต่ผิวก็สามารถบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับตัวคุณได้นะ เช่น สิว ตาบวม พอตื่นมาส่องกระจกก็อาจจะสังเกตเห็นความหย่อนคล้อยหรือรอยย่นบนผิวหน้าทั้งที่เมื่อวานคุณก็อาจจะยังไม่เห็นมันก็เป็นได้ เราลองมาเช็คกันหน่อยว่าคุณเข้าข่ายอาการพวกนี้ที่ผิวกำลังจะพยายามบอกอะไรคุณอยู่หรือเปล่า? 1. สัญญาณการเริ่มต้นของริ้วรอยก่อนวัย เพราะว่าผิวของคุณขาดคอลลาเจน หรือกระบวนการสร้างในร่างกายของคุณไม่ดีเพียงพอ จึงต้องมีการเร่งกระตุ้นการสร้างขึ้นมา ดังนั้นคุณอาจจะต้องการซีรั่ม AHA 5% เพื่อการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนของเซลล์ และเริ่มเข้มข้นในระดับที่ผิวของคุณรับได้ในช่วงเวลาก่อนนอน แต่ทั้งนี้ในระหว่างช่วงกลางวันคุณก็ต้องป้องกันแสงแดดอันเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ช่วยชะลอความแก่ก่อนวัย…
หลายๆ คนคงมีแผลเป็นอยู่แล้วโดยเฉพาะ แผลเป็นจากโรคอีสุกอีใส ที่เกิดได้เพราะการไอ จาม และติดต่อกันเป็นแพร่กระจายเชื้อไวรัส ใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2 อาทิตย์ ทางอากาศและสัมผัส ใช้สิ่งต่างๆ ร่วมกันกับผู้ที่มีเชื้อ สุดท้ายแล้วเมื่อฟักตัว ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเริ่มมีอาการปวดหัว อ่อนเพลีย มีไข้ตํ่าๆ ไปถึงไข้สูงและขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอด รวมถึงไม่อยากรับประทานอาหาร และสิ่งที่เห็นชัดที่สุดของจุดเริ่มต้นการเป็นแผลเป็นคือ เริ่มมีผื่นแดงจนพัฒนาไปเป็นตุ่มนูนน้ำใส ทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองและอยากเกา ในช่วงนี้ หากใครทนไม่ไหวอาจจะใช้มือและเล็บเกา ทำให้ลุกลามก่อนจะหาย หากไม่มีติดเชื้อแบคทีเรียซํ้าอีก แผลตกสะเก็ดและเริ่มแห้งหลุดไปเองไม่เกิน 2 อาทิตย์ แต่ถ้าติดเชื้อแบคทีเรียอาจมีผลเป็นหนอง และการสัมผัสกับแผลเพื่อบรรเทาอาการคัน อาจะทำให้เกิดแผลเป็น รอยดำนั่นเอง
‘การนอนหลับผักผ่อน’ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ โดยการนอนหลับสามารส่งผลกระทบต่อผิวของคุณได้ทั้งด้านดีและด้านไม่ดี การนอนหลับที่ไม่สนิทติดต่อกันอย่างเป็นประจำ