สุขภาพดีด้วย “การเดิน”…ก้าวเดินอย่างไร จึงจะถูกวิธี?
การเดินเป็นหนึ่งในวิธีออกกำลังกายที่เหมาะกับคนสายเบาๆ แค่เดินอย่างต่อเนื่องเพียงวันละ 30 นาที ก็ทำให้ร่างกายแข็งแรงได้
การเดินเป็นหนึ่งในวิธีออกกำลังกายที่เหมาะกับคนสายเบาๆ แค่เดินอย่างต่อเนื่องเพียงวันละ 30 นาที ก็ทำให้ร่างกายแข็งแรงได้
“การเดิน” ถือเป็นการออกกำลังกายและวิธีรักษาสุขภาพที่ทำได้ง่าย ไม่สิ้นเปลือง เป็นอิสระ ไม่ต้องมีเทรนเนอร์ ทุกเพศทุกวัยสามารถทำได้อย่างปลอดภัย รวมถึงผู้ที่มีน้ำหนักมาก ผู้สูงอายุ ทั้งนี้ การเดินให้ได้ผลดีต้องได้ระยะทางที่เหมาะสม แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าที่เราเดินในแต่ละวันมีจำนวนกี่ก้าว งานนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของผู้ช่วยอย่าง “เครื่องนับก้าว” ประโยชน์ของการเดินมีมากมาย เช่น ช่วยให้การทำงานของหัวใจและปอดดี ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย…
ไหล่ตึง หลายคนที่ทำงานอยู่หน้าจอตลอดเวลาอาจมีอาการนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของกลุ่มออฟฟิศซินโดรม จากบทความเรื่อง 6 วิธีปรับพฤติกรรมเพื่อห่างไกล “ออฟฟิศซินโดรม” ได้บอกถึงแนวทางช่วยให้เราลดเสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรม
ร่างกายต้องการพลังงาน (ในรูปแบบของแคลอรี่) สำหรับปฏิกิริยาทางเคมีที่ซับซ้อนทั้งหมดที่ช่วยให้เราเคลื่อนไหว หายใจ คิดและทำงานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามความต้องการแคลอรี่รายวันแตกต่างกันไปในแต่ละคนและยังมีปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนัก เพศ พันธุกรรมรวมไปถึงระดับกิจกรรม
อาการบาดเจ็บที่เกิดจากการทำงานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง เป็นผลมาจากการทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ประกอบกับความเร่งรีบต่างๆ บางครั้งทำให้ต้องอดอาหาร อดนอน หรือนอนดึก เมื่อบวกกับความเครียดและกดดันจากการทำงาน ล้วนเป็นสาเหตุให้เกิด “ภาวะออฟฟิศซินโดรม” ได้
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เรามีทางเลือกหลายทางมากขึ้นในการจะฟิตแอนด์เฟิร์ม โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นและเครื่องมือที่ช่วยวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย แจ้งระยะทางที่เราเดิน จำนวนก้าว รวมไปถึงบันทึกพลังงานที่เผาผลาญไประหว่างวันได้ด้วย
การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ลงทุนต่ำ แต่ได้ผลดีต่อสุขภาพมากมายไม่แพ้การเข้าฟิตเนส ขอเพียงทำอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และถูกทาง อย่างน้อยวันละ 30 นาที คุณจะเห็นได้ถึงผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจ
เริ่มต้นง่ายๆ คุณต้องเริ่มตั้งกฎกับตัวเอง เช่น “ทุกสัปดาห์ฉันจะเดินออกกำลังกายอย่างน้อยสามครั้ง วันละ 20 นาที” แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณไปจนถึงจุดที่ดีที่สุดโดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำไว้ว่าควรออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 30 นาทีและทำต่อเนื่องแบบนี้สัปดาห์ละ 5 วัน เบื้องต้นแล้ว ก่อนเตรียมออกไปจ๊อกกิ้ง คุณควรคำนึงถึงเวลาและระยะทางที่เหมาะสมในการวิ่งแต่ละครั้งของคุณเสียก่อน หากคุณตั้งเวลาไม่เหมาะสมกับระยะทางเช่น คุณคิดว่าจะวิ่ง 1 กิโลเมตรภายใน 1…