เรื่องสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับเด็กทารกที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ คุณแม่จึงต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด ยิ่งช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก ทำให้เบบี๋หลายรายมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เพื่อให้เบบี๋หายใจคล่องไม่งอแง แนะนำให้คุณแม่ “ล้างจมูก” ให้เจ้าตัวเล็กค่ะ
“ท่อน้ำตาอุดตัน” เป็นโรคที่พบได้บ่อยในบ้านเรา โดยเฉพาะในเด็กทารก ซึ่งมักมีอาการเมื่ออายุประมาณ 1 เดือน เห็นเบบี๋มีอาการน้ำตาไหลตลอดเวลา ตาเฉอะแฉะตลอดทั้งวัน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ร้องไห้ หัวอกคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องกังวลเป็นธรรมดา เพื่อดูแลลูกรักอย่างถูกวิธี เรามาทำความรู้จัก “โรคท่อน้ำตาอุดตัน” นี้กันค่ะ
“โรคปอดบวม” หรือ “โรคปอดอักเสบในเด็ก” เป็นสาเหตุการตายอับดับ 1 ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ในแต่ละปีจะมีเด็กทั่วโลกที่เสียชีวิตจากปอดอักเสบปีละ 2 ล้านคน ภัยใกล้ตัวขนาดนี้ เหล่าคุณแม่ควรรีบหาวิธีป้องกันความเสี่ยงให้ลูกรักด่วน ๆ เพราะความรุนแรงของโรคปอดบวมอาจทำให้เบบี๋เสียชีวิตได้เลยนะคะ
“ลมพิษในเด็ก” เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย มีลักษณะเป็นผื่นคัน นูน แดง บวม มีขอบเขตชัด มักจะเกิดขึ้นและหายภายใน 24 – 48 ชั่วโมง และอาจเป็นซ้ำอีกได้ ถ้าเป็น ๆ หาย ๆ นานเกินกว่า 6 สัปดาห์ เรียกว่า “ลมพิษเรื้อรัง” เพื่อป้องกันไม่ให้เบบี๋ที่รักป่วยด้วยโรคลมพิษพ่อแม่ต้องรู้สาเหตุของโรคก่อนค่ะ
ทำเอาเหล่าคุณแม่มือใหม่ต๊กกะใจอย่างแรง เมื่อเปิดผ้าอ้อมของลูกแล้วพบว่ามีตกขาว หรือมีเลือดไหล ออกทางช่องคลอดคล้ายกับมีประจำเดือน ซึ่งดูแล้วเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับเด็กวัยทารก คำถามที่เกิดขึ้นในใจของบรรดาหม่ามี้คือ อาการแบบนี้อันตรายไหม หรือเกิดความผิดปกติใด ๆ ขึ้นกับเบบี๋หรือไม่?
หลักการสำคัญในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหนังเด็ก คือ ควรมีความอ่อนโยนต่อผิวหนัง ไม่ควรมีน้ำหอม สีย้อมหรือแอลกอฮอลล์เป็นส่วนประกอบ เด็กชอบขยี้ตาตัวเองอาจทำให้เกิดการระคายเคืองขึ้นได้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ alpha hydroxy acids จะทำให้ผิวเด็กแสบ แดง เหมือนโดนน้ำร้อนลวก
“โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง” (Atopic dermatitis) เป็นโรคผิวหนังอักเสบที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก อาการของเด็กที่ป่วยด้วยโรคนี้ ผิวหนังจะแห้งและมีอาการคันมาก ผิวหนังจะไวต่อสารภายนอกที่มาสัมผัส ทำให้มีผื่นขึ้นเป็น ๆ หาย ๆ พอบอกว่าเป็นโรคที่พบบ่อยในเด็ก แล้วอย่างนี้เจ้าตัวเล็กของคุณจะมีโอกาสป่วยมั้ยนะ?
การร้องไห้กับทารกเป็นของคู่กัน เพราะเด็กวัยนี้ยังไม่สามารถสื่อสารบอกความต้องการของตัวเองได้โดยการใช้ภาษาพูด ฉะนั้นเจ้าตัวเล็กจึงใช้การร้องไห้บอกต้องการหรือบอกว่าเขารู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจ หลายครั้งที่เบบี๋ร้องไห้หนักมากจนพ่อแม่ไม่รู้จะจัดการยังไง ขอบอกว่าปัญหานี้แก้ได้ไม่ยากด้วยการอุ้มค่ะ สาเหตุที่ทำให้เบบี๋ร้องไห้… ร้องเพราะหิว ผ้าอ้อมเปียกชื้นจากปัสสาวะหรืออุจจาระ ท้องอืด สภาวะแวดล้อมรอบตัว เช่น อากาศร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป นอนผิดที่ทำให้ไม่สบายตัว เรียกร้องความสนใจ อยากให้พ่อแม่อุ้ม 3 ท่าอุ้มไม้ตายแก้ปัญหาเบบี๋ร้องไห้ไม่หยุด ท่าเซิ้งกระติ๊บ หลักการของท่านี้ คือ…
“การเช็ดตัว” ถือเป็นหนึ่งในการดูแลเบบี๋ที่คุณแม่มือใหม่ควรเรียนรู้ค่ะ ทั้งในแง่ประโยชน์ของการเช็ดตัว วิธีการเช็ดตัวที่ถูกต้อง เพื่อนำไปใช้ได้ถูกวิธี ซึ่งสถานการณ์ที่ควรเช็ดตัวให้ทารก ได้แก่ ก่อนที่สายสะดือของเด็กจะแห้งและหลุดออก, ขณะที่เด็กป่วย และก่อนที่แผลขลิบหนังปลายองคชาติของเด็กชายจะหาย
ความที่เป็นคุณแม่มือใหม่ ไม่เคยมีเบบี๋มาก่อน ทำให้เกิดความกังวลใจกับทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลูกน้อยได้ง่าย ทั้งที่จริงแล้วสิ่งที่เกิดกับทารกนั้นเป็นอาการที่พบในภาวะปกติ แต่คุณแม่ไม่ทราบจึงกลัวว่าจะเป็นอันตราย เพื่อป้องกันอาการตื่นตระหนก เราขอเติมความรู้เรื่องอาการปกติของเบบี๋ให้คุณแม่มือใหม่ค่ะ