ในช่วงของการลดน้ำหนัก “แคลอรี่” ก็เป็นหนึ่งในตัวเลขสำคัญที่เราจะพลาดไปไม่ได้เลย เพราะเป็นตัวกำหนดว่าพลังงานที่เราทานเข้าไปในแต่ละวันนั้นมากเกินกว่าที่กำหนดไว้หรือเปล่า? มากไป… แน่นอนว่าผลที่ตามมาก็คือ น้ำหนักไม่ลดหรืออ้วน!
แต่ความจริงของตัวเลขแคลอรี่บนบรรจุภัณฑ์นั้น นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด อธิบายว่า…
ตัวเลขแคลอรีบนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เป็นตัวเลขที่คิดตามสูตรซึ่งมีอายุร้อยปีแล้วและอาจคลาดเคลื่อนได้สูงถึง 25% ของปริมาณแคลอรีที่แท้จริง
หรืออาจต่ำกว่าที่ระบุไว้บนฉลากซึ่งขึ้นอยู่กับค่า “Thermic Effect of Food – TEF” (พลังงานที่ต้องใช้ในการย่อยอาหารแต่ละอย่าง) ของอาหารชนิดนั้นๆ ส่วนที่ว่าจะต่ำกว่าเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับว่าร่างกายของคุณย่อยอาหารชนิดนั้นได้ดีแค่ไหนประกอบกันด้วย
เจอแบบนี้ต้องทำอย่างไร?
เลือกกินโปรตีนให้มากขึ้น เนื้อสัตว์และผักทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานมากที่สุดทำให้มีแคลอรีเข้าสู่ร่างกายน้อยลง 20-30% เมื่อเทียบกับคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวที่ย่อยได้ง่ายกว่า เช่น พาสต้าและไอศกรีม เพื่อนๆ จึงควรจำกัดการกินคาร์โนไฮเดรตเชิงเดี่ยวให้น้อยกว่าของอาหารที่กินเข้าไปทั้งหมด
แต่ถ้าใครรู้สึกว่ายุ่งยากมากไปกับการเกร็งตัวเลข สดสวยแนะนำว่าให้เลือกทานแต่พอดีแล้วออกกำลังให้เหมาะสมด้วย แบบนี้ก็ลดน้ำหนักได้ไม่ยากแล้วล่ะค่ะ 🙂