แม้จะเป็นผลไม่ที่แรงทั้งกลิ่นและราคา แต่ด้วยรสชาติหวานมันนัวอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทุเรียน ไม่แปลกที่หลายคนยอมเปย์ ขอให้ได้ฟินกับความอร่อยของราชาผลไม้ไทย อย่างไรก็ตาม เพื่อสุขภาพที่ดีลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ควรกินหลีกเลี่ยงเมนูจากทุเรียนที่ให้พลังงานสูง รวมถึงกินอย่างถูกวิธี
ทุเรียนจัดเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง โดยเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต และยังมีเส้นใยอาหาร ไขมัน โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม สังกะสี สำหรับพันธุ์ทุเรียนที่ต่างกันจะให้พลังงานที่ต่างกันด้วย โดยทุเรียนน้ำหนัก 100 กรัม นั้น ทุเรียนก้านยาวให้พลังงาน 180 กิโลแคลอรี, ทุเรียนหมอนทองให้พลังงาน 156 กิโลแคลอรี, ทุเรียนชะนีให้พลังงาน 139 กิโลแคลอรี ส่วนทุเรียนกระดุมให้พลังงาน 129 กิโลแคลอรี
สำหรับทุเรียนที่ผ่านกระบวนการแปรรูปต่าง ๆ นั้น หากบริโภคในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ได้รับพลังงานที่มากเกินความจำเป็น โดยเมนูจากการนำทุเรียนไปแปรรูปที่ให้พลังงานสูง 3 อันดับแรก มีดังนี้
อันดับที่ 1 ทุเรียนทอด ถุงละครึ่งกิโลกรัม ให้พลังงานสูงมากถึง 508 กิโลแคลอรี ควรแบ่งกินประมาณ 5 ครั้ง
อันดับที่ 2 ทุเรียนกวน 1 แท่ง ขนาด 300 กรัม ให้พลังงาน 320 กิโลแคลอรี และมีปริมาณน้ำตาลสูง ทั้งจากทุเรียนที่สุกง่อมรวมกับน้ำตาลที่เติมลงไปเพื่อให้จับตัวเป็นก้อนและเก็บไว้ได้นาน จึงควรแบ่งกินอย่างน้อย 2 – 3 ครั้ง
อันดับที่ 3 ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน 1 ถ้วย ให้พลังงาน 220 กิโลแคลอรี ใน 1 วัน ไม่ควรกินเกิน 1 ถ้วย
จากปริมาณแคลอรี่ของเมนูทุเรียนข้างต้น จะเห็นได้ว่า หากบริโภคทุเรียนควรเลือกแบบสดที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป เพราะจะได้พลังงานจากน้ำตาล ไขมันน้อย และได้วิตามินกับสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า
ทริคการกินทุเรียนให้ได้รับประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารที่เหมาะสม
1. เลือกทุเรียนแบบกึ่งห่ามเพราะจะมีแป้ง และน้ำตาลที่น้อยกว่าแบบสุกงอม
2. ไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ดขนาดกลาง (หนักประมาณ 80 กรัม) และไม่ควรกินเกิน 3 วันต่อสัปดาห์ เพราะหากกินครั้งละประมาณ 4 – 6 เม็ด ร่างกายจะรับพลังงานสูงถึง 520 – 780 กิโลแคลอรี ซึ่งเทียบเท่ากับกินอาหารมื้อหลัก 2 มื้อ
3. เมื่อไรที่กินทุเรียน ควรลดอาหารกลุ่มข้าว แป้ง น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต อาหารหวานจัด อาหารไขมันสูง อาหารมันจัด เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานเกินกว่าที่ต้องการในแต่ละวัน
4. ควรออกกำลังกาย เพื่อเผาผลาญน้ำตาล จากการกินทุเรียนออกไป เช่น เดินอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
5. หลีกเลี่ยงการกินทุเรียนกับผลไม้รสหวาน เช่น มะม่วงสุก เงาะ ลิ้นจี่ เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลสูงเกินไป
6. หลีกเลี่ยงการกินทุเรียนกับแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการชา วิงเวียน หรืออาเจียนได้ และอาหารทั้งคู่ให้พลังงานสูงทั้งคู่ จึงอาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วได้
7. หลีกเลี่ยงการกินทุเรียนกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา เพราะอาจทำให้ปวดศีรษะได้
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด สามารถกินทุเรียนได้แต่ต้องปริมาณน้อยกว่าคนทั่วไป หรือปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อรับคำแนะนำอย่างถูกต้องเหมาะสม