จักรยานนอกจากจะสามารถพาเราไปยังจุดหมายใกล้ๆได้โดยไม่ต้องเปลืองน้ำมันแล้ว การปั่นจักรยานหากทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปและต่อเนื่องยังจะช่วยเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีแต่ช่วงขาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงหน้าท้อง และก้น อีกด้วย พร้อมแล้ไปดูกันดีกว่าว่า หากเราต้องการลดน้ำหนักด้วยการปั่นจักรยานต้องทำอย่างไรบ้าง
เทคนิคลดความอ้วนด้วยจักรยาน
1.ความเร็วและแรง
เริ่มแรกควรปั่นแบบธรรมดาที่ความเร็ว 60 รอบต่อนาที (1 รอบต่อวินาที) นาน 10 นาที จากนั้นจึงปรับให้ชันมากขึ้น ปั่น 10 นาที แล้วกลับไปปั่นแบบธรรมดาอีก 10 นาที ทำแบบนี้อาทิตย์ละ 3 ครั้ง 3 วัน เป็นเวลา 3 อาทิตย์ แล้วจึงค่อยไปสู่ขั้นต่อไป
2.เมื่อเริ่มชำนาญมากขึ้น
ให้เริ่มปั่นที่ 80-90 รอบต่อนาที สลับกับแบบธรรมดา 15 นาที และแบบชัน 15 นาที ต่อด้วยแบบธรรมดา 15 นาที ทำแบบนี้ 3-4 ครั้งต่ออาทิตย์ อย่างน้อย 3 อาทิตย์ ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ หลังจากชินแล้ว ลองเปิดเพลงเพื่อกำหนดความเร็วสำหรับการปั่นแบบธรรมดา และแบบชัน อาจสลับด้วยการเดิน และเพิ่มเวลาขึ้นอีก 2 อาทิตย์ รับรองว่างานนี้เห็นผลแน่นอนว่าสามารถลดน้ำหนักได้อย่างชัดเจน
วิธีการปั่นจักรยานให้ถูกต้อง
การปั่นจักรยานที่ถูกต้อง ควรเลือกเกียร์ต่ำไว้ก่อน และถีบให้วิ่งไปเรื่อยๆ ประมาณ 70 รอบต่อนาที พยายามถีบให้ขาซอยคงที่ขนาดนี้ และถ้ามีทางขึ้นเนินลงเนินหรือมีลมต้าน ค่อยปรับเกียร์ต่ำเกียร์สูงตามไปอีกที แต่พยายามปั่นให้คงที่ไว้
เทคนิค “การหายใจ”
การฝึกการหายใจในการปั่นจักรยาน มีประโยชน์คือจะทำให้ปอดขยายใหญ่ขึ้น พร้อมกับฝึกประสาทควบคุม ทำให้คุณผ่านพ้นช่วงหายใจไม่ทันได้ ซึ่งจะเป็นผลดีในการปั่นมากกว่าคนที่ไม่เคยฝึกเทคนิคการหายใจ ซึ่งมีวิธีการฝึกง่ายๆ ดังนี้
- หายใจเข้าทางจมูกให้เต็มปอด แล้วเป่าลมออกทางปากจนหมดปอด พยายามหายใจให้ลึกๆ ยาวๆ ช้าๆ ก่อนทั้งเข้า – ออก
- หายใจเข้า – ออกทั้งทางปาก และจมูกพร้อมๆ กัน ส่วนจังหวะการหายใจเหมือนข้อ 1
- รวมแบบการหายใจ 1+2 เข้าด้วยกันแต่เน้นจังหวะการหายใจที่หนักหน่วงแรงและเร็วเหมือนการแข่งขัน ประมาณ 15-20 สะโตก (เข้า – ออก) แล้วผ่อนการหายใจยาวๆ
เมื่อทราบวิธีที่ถูกต้องแล้วก็มาปั่นกันเลย!!