หลายๆ คนชื่นชอบในการออกกำลังกาย และหนึ่งทางเลือกที่ดีและง่ายที่สุดของการออกกำลังกายคือ “การวิ่ง” ซึ่งสำหรับการวิ่งแล้วสิ่งที่สำคัญไม่ต่างจากการวอร์มอัพร่างกายนั่นก็คือ…
รองเท้าวิ่ง
แน่นอนว่าเกริ่นมาแบบนี้แล้ว ในบทความนี้สดสวยจะชวนเพื่อนๆ มาดูกันว่า หากเราจะจริงจังกับการวิ่งดูสักครั้ง เราต้องลงทุนกับรองเท้าวิ่งอย่างไรดี?
1.แค่ใส่แล้วรู้สึกสบาย
อันดับแรกและสำคัญเลยคือเพื่อนๆ ต้องลองแล้วรู้สึกว่ามันใส่สบายก่อน ไม่แน่น ไม่อึดอัดเท้า ไม่รั้งเท้าจนเกินไป ให้ลองวิ่งเล็กน้อย หากรู้สึกว่าใส่วิ่งแล้วสบายก็อาจอนุมานได้ว่ารองเท้าคู่นี้น่าจะใส่วิ่งได้ดีเหมือนกัน หรือถ้าลองใส่แล้วรู้สึกเหมือนกับไม่ได้ใส่ก็จะยิ่งดี อย่างไรก็ตามแนะนำให้ลองเดินช้าเร็วสลับกันดูก่อน
2.บางครั้งก็เป็นเรื่องของศิลปะ
จะมีหลายแบรนด์ที่ผลิตรองเท้าวิ่งออกมาหลากหลายประเภท ซึ่งเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าแล้วแบบไหนล่ะที่จะเหมาะกับเท้าของเราจริงๆ เมื่อใส่วิ่ง ดังนั้น การเลือกซื้อรองเท้าวิ่งจึงเหมือนเป็นเรื่องของศิลปะเหมือนกัน แค่เพื่อนๆ รู้สึกว่าใส่คู่ไหนแล้วรู้สึกดี รู้สึกสบาย นั่นก็เป็นรองเท้าวิ่งที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่
3.อย่าเชื่อคำแนะนำให้มากนัก
เมื่อเพื่อนๆ ลอง นั่นจะเป็นทางเดียวที่ทำให้รู้ว่ารองเท้าคู่นั้นเหมาะกับเพื่อนๆ หรือไม่ ไม่ใช่คำแนะนำจากเพื่อน รีวิวในเน็ต คนขายหรือว่าผู้เชี่ยวชาญ สาเหตุที่ให้เชื่อการลองมากกว่าการรีวิวก็คือ “เท้าทุกคนต่างกัน” ดังนั้น เพื่อนๆ จึงจำเป็นต้องหารองเท้าวิ่งที่เป็นเหมือนเนื้อคู่ของตัวเองด้วยการไปลองค่ะ
4.รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเปลี่ยน
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการซื้อรองเท้า เพื่อนๆ ต้องคิดเสมอว่ามันคือการลงทุน เราได้ออกกำลังกายและนั่นเป็นการคืนทุนแล้ว ดังนั้น ใครที่คิดว่าจะซื้อรองเท้าเพื่อให้ใช้ได้นานๆ (ซึ่งแน่นอนว่าใครๆก็อยากให้เป็นแบบนั้น) แต่ว่าของใช้ทุกอย่างจะมีระยะเวลาการใช้งานของมัน รองเท้าก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น เมื่อได้รองเท้าที่ถูกใจแล้วต้องรู้ด้วยว่าเมื่อไหร่ที่เราสมควรเปลี่ยนได้แล้ว ไม่อย่างนั้นอาจส่งผลต่อการวิ่ง ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บได้
สิ่งสำคัญี่สุดของการเลือกซื้อรองเท้าและการใช้รองเท้าวิ่งคือ เพื่อนๆ ต้องฟังเสียงของร่างกายค่ะ เมื่อไหร่ก็ตามที่เพื่อนๆ ใส่รองเท้าวิ่งคู่ไหน เมื่อวิ่งแล้วรู้สึกเจ็บ ปวดเข่า ปวดหลัง นั่นอาจหมายความว่ารองเท้าคู่นั้นยังไม่ใช่ก็เป็นได้ค่ะ
