พูดตามความจริงแล้ว หากเพื่อนๆ อยากลดน้ำหนัก คุณไม่ต้องพึ่งการวิ่งอย่างหนักเพื่อให้การเผาผลาญเต็มสูบ หรือสลับไปที่คาร์ดิโอเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในแง่ของความเฟิร์ม แต่เพื่อนๆ สามารถเลือก “การเดิน” ให้เป็นทางออกของทุกเป้าหมายที่อยากพุ่งชน
เรามาลองยกตัวอย่างเช่น หากคุณเดิน 7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ความเร็ว 7-9 นาทีต่อกิโลเมตร) เป็นเวลาประมาณ 42 นาที คุณสามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากเท่ากับนักวิ่งที่วิ่ง 10 นาที นอกจากการเผาผลาญแคลอรีให้มากขึ้นแล้ว คุณยังทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย การเดินเร็วขึ้นสามารถลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพที่อาจถึงตายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหัวใจและระบบทางเดินหายใจตามการศึกษา 2019 จากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ในอังกฤษ1
แม้ว่าการเดินด้วยความเร็ว 7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจดูเข้มข้น แต่ก็เป็นไปได้ที่จะรักษาระดับไว้ได้หากคุณสร้างความอดทนและค่อยๆ เพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ ค่ะ
วิธีเดินเร็วเพื่อลดน้ำหนัก
1. ยืนสูง
เมื่อคุณยืดกระดูกสันหลัง คุณจะได้ระยะห่างระหว่างสะโพกและซี่โครงมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ขาของคุณแกว่งได้อิสระมากกว่าเมื่อคุณทรุดตัวลงในกระดูกเชิงกราน
2. มองไปข้างหน้า
รักษาแนวการมองเห็นของคุณไปข้างหน้า 3-6 เมตรแทนที่จะมองลงไปที่เท้าของคุณ พลิกไหล่ไปมาเพื่อช่วยเปิดหน้าอกและคลายหลังหลัง เพื่อให้คุณหายใจได้ลึกขึ้น
3. แกว่งแขนเร็วขึ้น
งอแขนของคุณที่ 90 องศาในขณะที่คุณแกว่งไปข้างหน้าและข้างหลัง หลีกเลี่ยงการแกว่งไปมาตามร่างกายหรือกางปีกออกไปด้านข้าง สิ่งนี้อาจรบกวนการก้าวย่างของคุณและทำให้คุณเบิร์นพลังงานอย่างรวดเร็ว การปั๊มแขนจะช่วยให้มีส่วนร่วมกับร่างกายส่วนบนและแกนกลางลำตัวเพื่อช่วยให้ได้การเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเดินเร็วขึ้น
4. ก้าวสั้น
เมื่อขาหน้าของคุณเอื้อมออกไปไกลเกินไป มันจะทำหน้าที่เหมือนเบรกและทำให้ช้าลง ด้วยก้าวที่สั้นและเร็ว เท้าของคุณจะแตะพื้นเกือบอยู่ใต้ตัวคุณ คุณจึงพลิกตัวไปเหนือเท้า ให้ลองแบบนี้ะนคะ ยกเข่าหนึ่งข้างขึ้นไปที่ระดับสะโพก โดยให้เท้าของคุณห้อยอยู่ใต้เข่าของคุณ เหมือนกับว่าคุณกำลังเดิน จากนั้นเหยียดขาไปข้างหน้าแล้ววางส้นเท้าลงกับพื้น ควรอยู่ข้างหน้าเท้าอีกข้างเล็กน้อย
5. แข่งขันกับตัวเอง
นับจำนวนก้าวที่คุณเดินในช่วงเวลาที่รวดเร็ว และพยายามเอาชนะตัวเลขนั้นในช่วงเวลาต่อมา หากคุณกำลังเดินกับเพื่อน ขอให้พวกเขาติดตามตัวเลขและเปรียบเทียบเมื่อสิ้นสุดการออกกำลังกาย สิ่งนี้จะกระตุ้นให้คุณเพิ่มความเร็วและปรับปรุงความอดทนของคุณได้นะ
ถ้าการวิ่งไม่ใช่คำตอบ การต้องพาตัวเองไปฟิตเนสไม่ใช่ทางเลือก ให้ลองการเดินอย่างมีเทคนิค โดยให้นำทั้ง 5 ข้อนี้ไปใช้นะคะ รวมทั้งปรับปรุงเรื่องอาหารการกินจะยิ่งช่วยให้ถึงเป้าหมายได้เป็นอย่างดีค่ะ