การออกกำลังกายนั้นแม้จะเป็นการออกกำลังกายแบบเป็นประจำแต่หากยังออกไม่มากพอย่อมทำให้น้ำหนักตัวไม่สามารถลดลงได้เช่นกัน ดังนั้นหากอยากออกกำลังกายให้ได้ผลวันนี้เราจึงนำเอา 4 สัญญาณดี ๆ ที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าคุณนั้นกำลังออกกำลังกายน้อยไปมาฝากกันด้วยจะมีอะไรบ้างมารู้ไปพร้อม ๆ กันจากนี้ได้เลย
1.ทำไปแบบไร้โฟกัส
ออกกำลังกายแบบออกไปคุยไปคุณก็สามารถทำได้ การที่คุณมีเพื่อนออกกำลังกายด้วยนั่นย่อมเป็นเรื่องดีและตราบใดที่คุณนั้นยังไม่ได้มีการโฟกัสที่ผิดจุดออกไปจากที่ตั้งใจไว้นั่นจะยังคงดีอยู่ ดังนั้น ในการออกกำลังกายทุกครั้งคุณไม่ควรมัวแต่ใส่ใจการพูดคุย แต่คุณควรใส่ใจกับการออกกำลังกายให้มากกว่า คุยได้แต่ไม่ใช่คุยเอาจริงเอาจังนั่นเอง
2.เหงื่ออยู่ไหน?
การออกกกำลังกายนั้นหากอยากจะให้ได้ผลลัพธ์ที่เรียกว่าเบิร์นจริงหรือเห็นผลจริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องของระยะเวลาในการออกกำลังกายแต่อย่างใดแต่ขึ้นอยู่กับเรื่องของจังหวะการเต้นของหัวใจมากกว่า (ต้องเป็นจังหวะที่มีการเผาผลาญเกิดขึ้นภายในร่างกาย)
ซึ่งอัตรานี้แตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล แต่สิ่งที่จะเป็นตัวสังเกตง่ายๆ นั่นคือ คุณสามารถสังเกตจากปริมาณของเหงื่อในขณะออกกำลังกายได้ เนื่องจาก หากร่างกายนั้นไม่ได้มีการออกแรงจนอัตราการเต้นของหัวใจถึงจุดเริ่มเผาผลาญได้แล้วละก็ร่างกายก็จะไม่สามารรถขับเหงื่ออกมาได้
3.ทำต่อเนื่องหรือเปล่า?
การออกกำลังกายที่ดีนั้นไม่จำเป็นเสมอไปว่าคุณนั้นจะต้องออกกำลังกายหลายแบบภายในแต่ละวัน เนื่องจาก การออกกำลังกายให้เห็นผลนั้นควรทำแบบต่อเนื่อง หากคุณแบ่งเวลาทำแต่ละอย่างอย่างละนิดอย่างละหน่อยนั่นจะทำให้ไม่มีกล้ามเนื้อส่วนใดถูกบริหารอย่างเต็มที่ กลายเป้นไม่มีส่วนใดเบิร์นเลย แบบนี้ก็ไม่ดี
4.ออกกำลังกายแล้วไม่รู้สึกปวดเมื่อยส่วนใดเลย
การออกกำลังกายที่ดีคือการที่คุณได้ใช้งานกล้ามเนื้อซึ่งแน่นอนว่าการได้ใช้งานกล้ามเนื้อนั้นจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อคุณรู้สึกปวดเมื่อยตามจุดต่าง ๆ หากใครที่ออกกำลังกายแล้วไม่เมื่อยควรต้องปรับเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายได้แล้ว
ว่ากันว่า “หว่านพืชย่อมหวังผล” การออกกำลังกายก็เหมือนกัน เราอาจไม่ได้เคร่งครัดกับมันมาก แต่หากทำไปแล้วไม่เอื้อประโยชน์ต่ออะไรก็ดูจะเป็นการเสียเวลาเปล่าหรือไม่? ลองคิดดูใหม่ ตั้งเป้าหมายกับมันดูแล้วเพื่อนๆ จะเห็นถึงโลกใบใหม่ค่ะ 🙂