อย่าบอกว่าไม่มีเวลา อย่าบอกว่าขี้เกียจ ถ้ายังอยากลดน้ำหนัก ห้ามพูดประโยคนี้เด็ดขาด ลองตื่นเช้ากว่าเดิมสัก 30 นาที รับรองว่าชีวิตคุณจะเปลี่ยนแน่นอน เพราะตอนเช้าเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นวันใหม่แบบสุขภาพดี ที่ทำได้ทุกวัน
1. รับแสงแดด
แค่ 20-30 นาทีต่อวัน ระหว่าง 08.00 – 12.00 น. การรับไออุ่นจากแสงแดดจะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ เพราะแสงแดดจะช่วยปลุกนาฬิการ่างกายให้ทำงานนั่นเอง
2. นอนให้พอ
ช่วงเวลาตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป เป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการนอน การนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือถ้าจะให้ดีก็ควรรีบนอนตั้งแต่ค่ำๆ ดีกว่า
3. ฝึกสมาธิ
การตื่นเช้า เพื่อสร้างสมาธิ ทำทุกอย่างด้วยจะสติ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการลดน้ำหนัก เพราะจะส่งผลให้อารมณ์มั่นคง และส่งผลต่อน้ำหนักได้อีกด้วย
4. เปลี่ยนวิธีเดินทาง
ถ้าปกติขับรถไปทำงาน ลองตื่นให้เช้าขึ้น แล้วปั่นจักรยานไปทำงานบ้าง หรือไม่ก็เปลี่ยนมาใช้รถสาธารณะ แค่เดินไปป้ายรถเมล์ก็เผาผลาญแคลอรีได้แล้ว
5. เน้นโปรตีน
ใครที่ขับถ่ายเป็นเวลา การตื่นเช้าอาจส่งผลต่อระบบการย่อยอาหารบ้างในช่วงแรก เพราะฉะนั้นคุณจึงควรเลือกทานอาหารประเภทโปรตีน เพื่อให้อยู่ท้องมากขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาย่อยนานกว่าเดิม การตื่นเร็วขึ้นจะเป็นการเผื่อเวลาสำหรับการย่อย และทำให้ขับถ่ายในเวลาเดิมนั่นเอง
6. เสียเหงื่อ
การออกกำลังกายคือ กิจกรรมบังคับที่ทุกคนต้องทำ นอกจากจะช่วยระบบเผาผลาญแล้ว ยังมีผลสำรวจพบว่า ผู้หญิงที่ออกกำลังกายตอนเช้า ไม่รู้สึกอะไรเวลาเห็นรูปอาหาร
7. เตรียมของว่างระหว่างวัน
ใช้เวลานี้เตรียมของว่างแบบสุขภาพดี ไว้กินระหว่างวันเลยดีกว่า จะไม่ได้ต้องหาอะไรกินจุกจิก ชวนอ้วนแถวออฟฟิส แนะนำให้เป็นผลไม้ หรือธัญพืชจะดีกว่า
การตื่นเช้ามีเรื่องดีๆ ให้ทำอีกเยอะ ถ้าทำได้ครบทุกข้อ รับรองได้ว่าจะลดน้ำหนักได้แน่นอน แม้จะไม่รวดเร็วทันใจ แต่ผลที่ได้รับจะมั่นคง ไม่โยโย่ชัวร์