หนึ่งในวิธีลดความอ้วนที่หลายคนคงคุ้ยเคยกันเป็นอย่างดีก็คือ… นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เรียกได้ว่าถ้ามีทริคเด็ดที่ไหนพูดถึงเรื่องการลดความอ้วน “การนอน” จะต้องเป็นหนึ่งในปัจจัยนั้นๆ
คำถามก็คือมันจริงเท็จแค่ไหนกัน?
จากผลการศึกษาเล็กๆ ที่ถูกเผยแพร่ในวารสารประจำปีอย่าง Annals of Internal Medicine บอกไว้ว่า คนที่นอนหลับมากกว่า 8.5 ชั่วโมงต่อคืน ติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น โดยเฉลี่ยแล้วจะมีแนวโน้มลดน้ำหนักได้ดีกว่าคนที่นอนหลับต่อคืนแค่เพียง 5.5 ชั่วโมง ซึ่งคนทั้งสองกลุ่มนั้นได้รับการเข้าตามแผนอาหารและการออกกำลังกายรูปแบบเดียวกัน
การศึกษาดังกล่าวให้เหตุผลไว้ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณนอนหลับสนิท ฮอร์โมนความหิวตัวร้าย ไม่ว่าจะเป็น ghrelin และ leptin ก็จะอยู่ในช่วงของการตรวจสอบ นั่นหมายความว่ามันจะไม่ออกฤทธิ์จนกว่าเราจะตื่นนั่นเอง และนี่ก็เป็นสาเหตุเดียวกันกับที่ว่า ทำไมเมื่อเราตื่นนอนขึ้นมาแล้วชอบหิว
แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาทำตามแผนอาหารและการออกกำลังกายเดียวกัน นั่นเป็นเพราะเมื่อคุณได้นอนหลับสนิทฮอร์โมนความหิวกระหายเช่น ghrelin และ leptin อยู่ในเช็ค นั่นหมายความว่าคุณจะไม่ตื่นขึ้นมาด้วยความเบื่อหน่ายเบคอนไข่และชีส (เริ่มทำงานไปสู่เป้าหมายของคุณด้วยอาหารของ Body Women’s Diet)
แค่การศึกษาเดียวนั้นยังไม่พอค่ะ ในปี 2013 มีผลการศึกษาอีกหนึ่งอย่างจาก University of California ชี้ให้เห็นว่าการข้ามการนอนหลับ หรือพูดง่ายๆ ว่าอดนอน จะทำให้สมองนั้นตอบสนองต่อไขมันและน้ำตาลมากขึ้น หิวมากขึ้น อยากมากขึ้น ยังไม่หมดค่ะ ยังมีการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ใน Journal of Clinical Nutrition พบว่าคนที่นอนไม่พอนั้นมีแนวโน้มรับแคลอรี่ในวันต่อมามากถึง 385 แคลเลยทีเดียว สรุปแบบง่ายๆ เลยนะคะ…
More Sleep = Less Calories
แล้วอย่าลืมนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ 🙂
