คิดจะควบคุมน้ำหนัก “น้ำเย็น” vs “น้ำอุ่น” อันไหนช่วยได้ดีกว่านะ?

0

มีงานวิจัยบอกว่า แค่ดื่มน้ำเพิ่มขึ้นเพียง 1% จะช่วยลดน้ำหนักได้ดีขึ้น เพราะหมายความว่าคุณจะกินอย่างอื่นได้น้อยลง เหมือนเอาน้ำเข้าไปแทนที่ (ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่การแทนที่กันโดยสมบูรณ์ก็ตาม) นอกจากนี้คุณยังจะได้รับประโยชน์จากไขมันอิ่มตัว น้ำตาล โซเดียม และคอเลสเตอรอลที่ลดลงอีกด้วย

แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ! เมื่อมีหนึ่งคำถามกก็มักจะมีอีกหนึ่งคำถามตามมาเสมอ แน่นอนว่าเราไม่สงสัยว่า “น้ำ” ช่วยลดน้ำหนักได้จริง ๆ แต่คำถามที่ติดอยู่ในใจสดสวยก็คือ…

แล้วต้องกินน้ำเย็น หรือน้ำอุ่น หรือว่าน้ำร้อน ถึงจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดีมากกว่ากัน เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

น้ำเย็น

ดูเหมือนว่าโดยสัญชาตญาณว่าน้ำเย็นอาจช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าอุณหภูมิห้องหรือน้ำร้อน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ร่างกายของคุณจะใช้พลังงานในการทำความร้อนน้ำให้สูงถึงอุณหภูมิร่างกาย ซึ่งจะทำให้การเผาผลาญแคลอรี่ของคุณตลอดทั้งวัน แต่ปรากฎว่าการให้ความร้อนกับน้ำแข็งไม่ได้เผาผลาญแคลอรี่จำนวนมาก ตามที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันระบุ การอุ่นร่างกายหนึ่งแก้วจะเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณแปดแคลอรี่เท่านั้น ดังนั้นแม้ว่าคุณจะดื่มน้ำที่มีน้ำแข็งเยอะๆ ตลอดทั้งวัน เช่น แปดแก้ว คุณก็เผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้เพียงประมาณ 64 แคลอรี่เท่านั้น แม้ว่าแคลอรี่ที่เผาผลาญส่วนเกินเหล่านี้อาจให้ประโยชน์เพียงเล็กน้อย แต่การออกกำลังกายระดับปานกลางครั้งละ 5 ถึง 15 นาทีต่อวันอาจได้รับผลลัพธ์เดียวกัน (อ้างอิง 1, Link: https://wholeu.uw.edu/2014/09/17/water/)

น้ำอุณหภูมิห้อง

เนื่องจากน้ำเย็นไม่ได้ให้ประโยชน์ในการเพิ่มแคลอรี่มากนัก การดื่มน้ำอุณหภูมิห้องจึงไม่มีข้อเสียที่สำคัญ และหากคุณต้องเดินทางทั้งวัน อาจจะสะดวกกว่า คุณสามารถเติมขวดน้ำขนาดใหญ่เพื่อจิบได้ตลอดทั้งวัน แทนที่จะรู้สึกผูกติดอยู่กับตู้เย็นที่เก็บน้ำเย็นไว้ หากประโยชน์ด้านความสะดวกดังกล่าวหมายความว่าคุณสามารถรักษาร่างกายให้ขาดน้ำได้ง่ายขึ้น การลดน้ำหนักโดยรวมจะดีกว่าการดื่มน้ำน้อยลงเพราะคุณกังวลว่าจะต้องแน่ใจว่าน้ำทั้งหมดของคุณเย็น

แท้จริงแล้วอุณหภูมิของน้ำอาจไม่ได้สำคัญอะไร ขอเพียงคุณมั่นใจว่าดื่มน้ำได้ปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน และเพียงพอ นั่นคือหัวใจสำคัญของการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *