การลดน้ำหนักสูตรมาตรฐานที่คนส่วนใหญ่ทำกันก็คือ คุมอาหารและการออกกำลังกาย แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะง่ายไปหมด เพราะบางทีการรับประทานในปริมาณที่น้อยบวกกับการโหมออกกำลังกายก็ไม่ได้แปลว่าน้ำหนักจะหายไป เนื่องจากน้ำหนักไม่ได้บอกได้ถึงไขมันที่ซ่อนอยู่ สิ่งที่ดีที่สุดจึงน่าจะเป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับร่างกายและน้ำหนักของตัวเองพร้อมๆไปกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและการวางแผนออกกำลังกายที่เหมาะสม ที่สำคัญควรรู้สิ่งเหล่านี้ด้วย

การลดน้ำหนักที่ได้ผลมีผลในระยะยาว

จากการศึกษาในปี 2010 เกี่ยวกับเรื่อง Behavioral Medicine พบว่าผู้หญิงที่ลดน้ำหนักเร็วมากกว่า 1.5 ปอนด์ต่อสัปดาห์จะสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่าผู้หญิงที่ลดน้ำหนักที่ช้ากว่าประมาณครึ่งปอนด์หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจาก การลดน้ำหนักในอัตราที่เร็วจะช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารและนิสัยในการออกกำลังกายได้

นอนหลับ = น้ำหนักลด

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะการศึกษาในปี 2014 บ่งบอกว่าคนที่นอน 8 ชั่วโมงครึ่งต่อคืนจะทำให้ไขมันในร่างกายลดลงไปประมาณร้อยละ 56 เมื่อเทียบกับคนที่นอนแค่ 5 ชั่วโมงครึ่งต่อคืน หนำซ้ำการนอนน้อยยังส่งผลต่อฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับและความอยากอาหารของคนเราที่ชื่อ ฮอร์โมนเลปติน (Leptin) และเกรลิน (Ghrelin) อีก ซึ่งหมายความว่าคุณจะหิวมากขึ้นและมักมีพฤติกรรมทานดึกๆนั่นเอง

ออกกำลังกายมากอาจไม่ได้ผล

การออกกำลังกาย แค่วันละ 30 นาทีก็สามารถลดน้ำหนักได้แล้ว และที่น่าสนใจกว่าคือ ในการศึกษา ปี 2012 พบว่าผู้ชายที่ออกกำลังกายทุกวันๆละ 30 นาทีสามารถลดน้ำหนักได้ราว 7 ปอนด์ (ในระยะเวลา 13 สัปดาห์) ส่วนผู้ชายที่ออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมงกลับลดได้เพียง 5 ปอนด์ จึงสามารถสรุปได้ว่าการออกกำลังกายระยะสั้นช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีกว่าการออกกำลังกายนานๆด้วยซ้ำ

ลองนำเคล็ดลับ 3 อย่างนี้ไปใช้ บางทีคุณอาจเป็นคนต่อไปที่ลดน้ำหนักลงได้อย่างที่ต้องการ