ที่มาของบทความชิ้นนี้มีอยู่ว่าจากการสำรวจผู้ชายมากกว่า 80% ยอมรับว่าเคยใช้มุกหลอกล่อเพื่อที่จะเสียบสด (งดถุง) ตามที่วารสาร SexResearch เขียนไว้ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือ ผู้ชายยังคุยโวอีกว่าเคยใช้ความกะล่อนหลายร้อยเล่มเกวียนเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ถุงยางอนามัย!!!

งั้นเรามาเทรนกันแบบเข้มข้นด่านแรกบอกอีกฝ่ายให้ชัดเจนซะตั้งแต่ต้นเกี่ยวกับกฎเหล็กในการป้องกัน เมื่อเล้าโลมกันไปสักพักเครื่องเริ่มร้อนต่างฝ่ายต่างพร้อมทีจะโรมรันทั้งสองฝ่ายต้องเคร่งครัดต่อกฏที่ว่าก่อนจะสอดใส่ควรป้องกันเสียก่อน ถ้าคุณยืนกรานและสร้างกฎชัดเจนผู้ชายส่วนใหญ่มักเคารพการตัดสินใจของคุณ จำไว้นะคะ!

และต่อไปนี้ก็คือ บรรดาข้ออ้างที่บอยหวังสดเขาใช้ได้ผลกันมาแล้ว สาวๆ ได้ยินเมื่อไหร่เคลียร์ให้ไวทำใจให้แข็งนะคะ

ผมไม่มีโรค ไว้ใจได้

นี่คือข้ออ้างที่ผู้ชายชอบใช้มากที่สุดจากผลการสำรวจพบว่าผู้ชาย 73.7 เปอร์เซนต์คิดว่าตนเองปลอดภัยไร้โรค”ผู้ชายชอบทึกทักไปเองว่าตัวตัวเขาปกติไม่มีโรคติดต่อ” คุณหมอบอกแต่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มักจะไม่แสดงอาการในผู้ชาย

ดังนั้นหากไม่ได้ตรวจกับแพทย์ให้แน่ใจพวกเขาก็ไม่มีวันรู้ จำไว้ว่าสิ่งที่ทำให้หมดอารมณ์จริงๆคือการรู้ว่าตัวเองติดโรคจาก “แฟน” รวมถึงเรื่องตั้งครรภ์นี่ก็ห้ามปล่อยปละละเลย ดังนั้นควรตกลงกันเสียแต่เนิ่นๆ ว่าอย่าให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

น่ารักขนาดนี้อดใจไม่ไหวอะขอเถอะ

ผู้ชายส่วนใหญ่ (หรือพูดให้ถูกคือ 73.2 เปอร์เซนต์) คิดว่าหากปากหวานหน่อยเดี๋ยวผู้หญิงก็ยอม นี่คือข้ออ้างอันตรายที่สุดเพราะมันคือการยกยออีกฝ่ายขณะทีฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน การบอกปัดคำเชื้อเชิญที่ได้ผลคือคุณต้งยึดมั่นปฎิธานแรกเริ่ม (ที่จะไม่ติดโรคหรือท้องก่อนแต่ง) คุณหมอสอนแนะนำให้คุณเก็บถุงยางอนามัยไว้ใกล้ๆเตียงหรือในกระเป๋าถือหรือไม่ก็วางไว้ในจุดที่คุณสามารถเอื้อมมือหยิบได้โดยง่ายวิธีนี้จะช่วยไม่ให้เซ็งตอนอีกฝ่ายบอกว่าไม่ได้พกถุงมาด้วยแถมได้สวนกลับเวลาฝ่ายชายบอกว่า “เสียเวลาหา”

ชอบแบบไม่ใส่มากกว่า

ประโยคนี้เชยระเบิดอย่างกับหลุดมาจากหนังยุค’70s แต่ผู้ชาย 50.3% ยังคงใช้มุกนี้อยู่ข่าวดีก็คือไม่ใช่ทุกครั้งที่ผู้หญิงตกหลุมพรางตามที่วารสาร Sexual Mebicine รายงานการ ทั้งหญิงและชายชอบการมีเซ็กซ์แบบป้องกันและแบบไร้ถุงพอๆกันผู้หญิงถึงจุดสุดยอดบ่อยครั้งกว่าถ้าสวมถุงยางเพราะไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องจะท้องและติดโรคทางเพศสัมพพันธ์

คุณหมอคนเดิมเน้นยำอีกทั้งถุงยางสมัยนี้ยังมีลูกเล่นมากมายไม่ว่าจะผิวขรุขระมีรสหรือบางพิเศษเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย วันไหนประจวบเหมาะลองพาเขาเข้าร้านสะดวกซื้อแล้วมองถุงยางแบบใหม่มาใช้ให้เซ็กซ์เร้าใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น

คืนนี้ขอไม่ใส่ถุงยางได้ไหม

น่าสนใจที่ผู้ชาย 40% ใช้ชีวิตต่อรองกับอีกฝ่ายตรงๆว่าขอไม่สวมถุงเขาอาจคิดว่าคุณอาจจะเอ็นดูกับการขออนุญาติแล้วเออออห่อหมกไปด้วยคุณหมอเสริมดังนั้นทางแกคือ ตอกกลับไปตรงๆว่าไม่ใส่ถุงก็ไม่ต้องมีอะไรกันจะเอาหรือไม่เอา เพราะนี่ไม่ใช่นิทานก่อนนอนเอาไว้กล่อมเด็กคุณต้องยืนกรานว่า “ไม่” มิฉะนั้นอีกฝ่ายอาจตีความผิดว่าคนอย่างคุณนะอย่างไรก็ได้ หรือคิดว่าขอครั้งนี้ได้คราวหน้าก็น่าจะได้อีก

อะไรไม่เชื่อใจกันเลยหรือไง

มาอีกแล้วประโยคสุดดราม่าของผู้ชายแม้จะฟังชวนอ้วกแต่จากผลสำรวจผู้ชายกว่า 34% เคยใช้มุกนี้มาแล้วผู้ชายบางส่วนอาจจะรู้สึกฉุนเฉียวเมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนกรานให้ใช้ถุงยางบางคนถึงขั้นคิดไปว่าอยากลองของอันนี้อธิบายว่าไม่ได้เป็นเพราะเขา และนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาต่อรองกันเล่นๆบนเตียง คุณหมอแนะ

จะเห็นได้ว่าหนุ่มๆนั้นมีข้ออ้างสารพัด (ไม่รวมมุกที่ว่าเคยตรวจโรคมาแล้วหรืออย่างการแกล้งทำถุงขาด) สิ่งที่เราอยากบอกคือ…

คุณควรคุยกับอีกฝ่ายให้ชัดเจนไปเลยว่าควรเคารพการตัดสินใจของคุณทุกกรณีหรือสถานการณ์ถ้าเขายังพูดไม่รู้เรื่องก็ถึงเวลาคุยกันตรงๆ เรื่องกฏเกณฑ์ที่เราตั้งกันไว้ไม่ก็เขี่ยเขาทิ้งเพราะเซ็กซ์ที่ปลอดภัยคือสิงที่คู่รักต้องเห็นพ้องต้องกันโดยไม่มีข้อยกเว้น ขอย้ำ!!!!