ถึงจะอยู่ในหมวดของ “เซ็กส์เซอร์ไซส์” แต่จะขอแอบนอกเรื่องกันหน่อยกับเรื่องราว…
“อุบัติรักในที่ทำงาน”
ความรักเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และกับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนทำงาน วัยหนุ่มสาวที่ชีวิตส่วนใหญ่ปักอยู่แต่ที่ทำงาน และพบเจอเพื่อนร่วมงานมากกว่าคนที่บ้าน จนบางครั้งอาจเกิดอาการหวั่นไหวโดยไม่ทันตั้งตัว แล้วคุณจะมีวิธีรับมืออย่างไรเมื่อวันหนึ่งวันใดที่หัวใจเต้นไม่เหมือนเดิม
มีคู่รักหลายคู่ที่พบเจอกันที่ทำงาน และสานสัมพันธ์จนนำไปสู่การแต่งงาน แต่ก็มีหลายคู่เช่นเดียวกันที่เมื่อลงอคบหาดูใจกันแล้วพบว่าไปไม่รอด
ผลวิจัยโดยเว็บไซต์ PayScale ทำการสำรวจกับพนักงานบริษัทจำนวน 42,000 คน พบว่ามีเพียง 6 % เท่านั้นที่ลงเอยด้วยการแต่งงานกับเพื่อนร่วมงาน ถึงแม้จะมี 15% ที่ลองเปิดโอกาสคบหาดูใจกัน และช่วงอายุวัยหนุ่มสาวคือเริ่มต้นทำงานไปจนถึง 29 ปี มีจำนวนถึง 84 % ที่กล้าเปิดใจลองคบกับเพื่อนร่วมงาน
งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า สถานที่ทำงานนั้นมักเป็นสถานที่ที่คู่รักพบเจอกันได้ง่าย และมีโอกาสได้ศึกษานิสัยใจคอกันคุณจะเห็นถึงการแสดงออกในสถานการณ์ที่กดดัน วิธีรับมือและการแก้ปัญหา ตลอดจนความมีน้ำใจต่อคนรอบข้าง แต่ก่อนตัดสินใจว่าจะคบดีหรือไม่ ลองพิจารณาถึงปัจจัยต่อไปนี้เพื่อเช็กความรู้สึกที่อยู่ข้างในว่าเป็นรักแท้หรือเพียงแค่หลงใหล
ถามใจตัวเองว่าคุณตกหลุมรักจริง ๆ หรือเป็นเพียงความหลงใหลใกล้ชิด
เพราะทั้งสองกรณีนี้เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกัน หัวใจคุณอาจหวั่นไหวและรู้สึกตื่นเต้นยามได้พบหน้าเขา แต่โดยส่วนใหญ่ความหลงใหลนั้นมักเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพียงเพราะความใกล้ชิดสนิทสนาม ขณะที่รักแท้ต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ วิธีทดสอบคือ ควรชั่งความรู้สึกลึก ๆ ที่อยู่ข้างในว่าคุณรู้จักตัวตนของเขาดีแท้แค่ไหน คุณตกหลุมรักจากคุณสมบัติที่อยู่ข้างในตัวเขา หรือเพียงเพราะเขาเป็นคนดังในออฟฟิศรูปร่างหน้าตา บุคลิกที่ดูดี หรือด้วยตำแหน่งหน้าที่อันน่าหมายปองและทำให้เขาดูน่าสนใจ
รักครั้งนี้ควรปกปิดเป็นความลับหรือไม่
เพราะการมีความรักในที่ทำงานอาจส่งผลให้เกิดความวุ่นวายต่อชีวิตการทำงาน โดยเฉพาะสำหรับบางคนที่ไม่สามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับงานออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด ทำให้นโยบายของบางบริษัทไม่สนับสนุนให้พนักงานมีความรักในที่ทำงาน หรือบางแห่งก็ปฏิเสธที่จะรับคู่สามีภรรยาเข้ามาทำงานในแผนกเดียวกันเพราะเกรงจะเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง ด้วยเหตุนี้คุณอาจต้องชั่งใจให้ดีว่าบริษัทที่คุณทำงานอยู่นั้นมีนโยบายต่อเรื่องนี้อย่างไร และสังคมรอบข้างที่ทำงานเป็นอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางในการวางตัวได้อย่างเหมาะสมและไม่เป็นที่จับตา
เลือกคนที่เหมาะสมและระมัดระวังการวางตัวต่อหน้าสาธารณชน
จริงอยู่ที่ความรักสามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะอยู่สถานะใด แต่ความรักที่ยืนยาวควรมาพร้อมกับความเหมาะสม เมื่อคนที่คุณปิ๊งมีสถานะป็นหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้อง การคบกับคนที่มีสถานะด้อยกว่า บางครั้งคุณอาจทำตัวไม่ถูก และเป็นการยากที่ผู้คนรอบข้างจะยอมรับได้ รวมทั้งอาจทำให้ชีวิตการทำงานวุ่นวาย สุดท้ายไม่คุณก็เขาอาจต้องเป็นฝ่ายลาออกจากงาน
ความรักควรอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
เพื่อนร่วมงานอาจกลายเป็นคนรักได้เพราะความใกล้ชิด และการช่วยเหลือกัน แต่อย่าลืมพิจารณาถึงสิ่งที่นอกเหนือจากความสามารถเรื่องงาน เช่น ความสนใจ เป้าหมายชีวิตและไลฟ์สไตล์ส่วนตัว เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ชีวิตคู่ไปกันรอด ลองสังเกตุดูว่าเมื่ออยู่นอกออฟฟิศเขาใช้ชีวิตอย่างไร รสนิยม ทัศนคติด้านอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากเรื่องงานใกล้เคียงกับคุณมั้ย ตลอดจนงานอดิเรกที่ทำยามว่างแตกต่างจากคุณมากไปหรือเปล่า เพราะทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนประกอบที่จะทำให้ความรักยืนยาว
รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย
เรื่องกุ๊กกิ๊กในออฟฟิศเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ทุก ๆ บริษัท บางครั้งการทำงานร่วมกันหรือได้อยู่ใกล้ชิดกันอาจทำให้คุณเข้าใจผิดคิว่าเขามีใจให้ หรือยังไม่มั่นใจว่าเขาจะเป็นคนที่ใช่สำหรับคุณหรือเปล่า สาว ๆ หลายคนมักถูกหว่านเสน่ห์โดยไม่รู้ตัว ทำให้หลงคารมและตกหลุมรัก เพราะฉะนั้นจึงควรรักษาระยะห่างที่เหมาะสมเพื่อสังเกตพฤติกรรมของเขาให้แน่ใจ ไม่ใช่ว่าเราคิดไปเอง เช่น ใช้วิธีสื่อสารเรื่องงานผ่านทางอีเมลหรือสื่อออนไลน์แทนการเจอกันซึ่ง ๆ หน้า