เซ็กส์เป็นกิจกรรมทางเพศที่ช่วยปลดปล่อยอารมณ์ให้ถึงจุดสูงสุด ไม่แปลกที่หลายคนจะรู้สึกสบายตัวสบายใจหลังจากมีเซ็กส์ ทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เรียกว่ามีประโยชน์ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม เซ็กส์ที่ไม่ปลอดภัยไร้การป้องกันก็อาจนำมาซึ่งสารพัดโรค หนึ่งในนั้น คือ โรคติดเชื้อเอชพีวี
HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อเอชพีวี แพร่กระจายได้ง่ายผ่านการสัมผัสกับเชื้อโดยตรงหรือการมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันพบว่ามีเชื้อชนิดนี้มากกว่า 100 สายพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่มักทำให้เกิดหูดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ เชื้อ HPV บางสายพันธุ์อาจเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งชนิดต่าง ๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปากและลำคอ เป็นต้น
ผู้ติดเชื้อ HPV ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ การแสดงอาการของโรคอาจเกิดขึ้นหลายปีหลังจากติดเชื้อและสามารถแพร่เชื้อไปยังคนอื่นได้ สำหรับอาการของการติดเชื้อไวรัส HPV มีดังนี้
1. มีหูดหงอนไก่ (Condyloma Acuminata) เป็นตุ่มเล็ก ๆ ผิวไม่เรียบหลาย ๆ ตุ่ม กระจายตามอวัยวะเพศภายนอก มีอาการคันได้ สามารถพบได้ทั้งปากช่องคลอด และปากมดลูก ลักษณะของหูด หูดชนิดทั่วไป จะมีรูปร่างเป็นตุ่มเล็ก ๆ เจ็บปวดบ้างในบางครั้ง และหากสัมผัสจะรู้สึกว่าผิวของหูดนั้นมีความขรุขระ มีได้หลายสี พบได้ที่บริเวณมือ นิ้วมือ หรือข้อศอก ซึ่งหูดลักษณะเช่นนี้ส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย
นอกจากนี้ยังมีหูดชนิดอื่น ๆ เช่น หูดชนิดแบนราบ เกิดได้กับทุกส่วนของร่างกาย หูดฝ่าเท้า มักขึ้นบริเวณส้นเท้า ทำให้รู้สึกเจ็บขณะยืนหรือเดิน แต่หูดที่สร้างความทุกข์ใจให้ผู้ป่วยมากที่สุดคือ หูดที่อวัยวะเพศ (หูดหงอนไก่) เป็นติ่งเนื้อลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำ มักเกิดบริเวณอวัยวะเพศหญิง อวัยวะเพศชาย ทวารหนัก ส่วนใหญ่ไม่มีอาการเจ็บ แต่อาจทำให้รู้สึกคัน
2. มีตกขาวมากกว่าปกติ อาจมีเลือดปนตกขาว ตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอยจากช่องคลอด มีอาการเป็น ๆ หาย ๆ หากติดเชื้อที่ทวารหนัก ก็จะมีแผลหรือก้อนยื่นออกมาผิดปกติ แต่มีบ่อยครั้งที่หญิงบางรายได้รับเชื้อ HPV เข้าสู่ร่างกายแต่ไม่แสดงอาการและเชื้อจะหายไปเอง หรือหากร่างกายอ่อนแอก็อาจก่อให้เกิดความผิดปกติภายหลัง
โรคติดเชื้อ HPV มักติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก ปาก หรือการใช้อุปกรณ์เพื่อสนองความต้องการทางเพศร่วมกัน และสามารถแพร่ผ่านรอยแผลหรือรอยขีดข่วนตามผิวหนัง หากมีการสัมผัสผิวหนังหรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อจากผู้ป่วย แม้กระทั่งในช่วงที่ผู้ติดเชื้อยังไม่แสดงอาการก็ตาม ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้ออาจแพร่เชื้อสู่บุตรระหว่างการคลอดได้ แต่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างน้อย
วิธีป้องกันและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัส HPV สามารถทำได้โดยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุก 3 ปี หรือตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ทุก 5 ปี, ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี , สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งขณะมีเพศสัมพันธ์ และเลี่ยงพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
ย้ำกันอีกครั้ง ถ้าไม่อยากเสี่ยงติดเชื้อ HPV ก่อนมีกิจกรรมบนเตียง อย่าลืมป้องกันทุกครั้งด้วยการสวมถุงยางอนามัย รวมถึงตรวจภายในเพื่อคัดกรองโรค และฉีดวัคซีนที่จำเป็นเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันโรค