“แผลเป็น-ท้องลาย” ปัญหาผิวยอดฮิตของคุณแม่ผ่าคลอด

0

หลายคนคงเคยได้ยินได้เห็นผ่านหูผ่านตามาบ้าง เกี่ยวกับปัญหาผิวของหญิงตั้งครรภ์ อาทิ ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้ง ผิวหย่อนคล้อย มีผื่นแพ้ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน แต่สำหรับคุณแม่ผ่าคลอดปัญหาผิวอันดับต้น ๆ ที่มักประสบพบเจอคงหนีไม่พ้น ท้องลาย และ รอยแผลเป็น

ปัญหาท้องลาย หรือผิวแตกลาย ในหญิงตั้งครรภ์ โดยส่วนใหญ่บริเวณที่พบมากที่สุดคือ หน้าท้อง (พบมากถึง 90%) ตามด้วยบริเวณก้น หน้าอก และสะโพก  มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น หน้าท้องที่ขยายใหญ่อย่างรวดเร็วตามขนาดของทารกในครรภ์ น้ำหนักตัวของคุณแม่ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณแม่อายุน้อย ผิวหนังตึงมาก อาจทำให้ผิวหนังแตกลายได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณท้องน้อย เต้านม หรือต้นขา มักจะเกิดตั้งแต่อายุครรภ์ 6-7 เดือน ไปจนถึงหลังคลอด

วิธีแก้ปัญหาท้องลาย หรือผิวแตกลาย ทำได้โดยควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินเกณฑ์หรือพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว และหมั่นทาครีมครีมลดรอยแตกลายที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนและอิลาสติน อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์ (การทาครีมแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้จัดการปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ) เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวบริเวณหน้าท้อง ร่วมกับการดื่มน้ำเปล่า เพื่อทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป ช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีเมื่อถูกยืดขยาย ทั้งยังทำให้มีน้ำนมเพียงพอสำหรับเบบี๋อีกด้วย

สำหรับ แผลผ่าคลอด เป็นผลพวงจากการผ่าคลอด โดยแผลจะถูกเย็บปิดสนิทอยู่ใต้สะดือยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ในสัปดาห์แรกหลังจากผ่าคลอด ผิวชั้นนอกของแผลจะเริ่มติดกัน จากนั้นแผลจึงปิดสนิทและเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงอยู่นานประมาณ 6 เดือน ก่อนจะค่อย ๆ จางลงเป็นสีขาวและเรียบขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณแม่ที่ผ่าคลอด ควรปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัดในการดูแลสุขภาพร่างกายและรอยแผลเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหารอยแผลเป็น รอยนูน หรือคีลอยด์จากแผลผ่าคลอด รวมถึงการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น แผลติดเชื้อ

การดูแลแผลผ่าคลอดอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันปัญหารอยแผลเป็น หรือรอยนูนจากแผลผ่าคลอด ทำได้โดยการรักษาความสะอาดและคอยดูแลให้แผลแห้ง ห้ามแกะแผล และระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ, ไม่ยกของหนักในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังผ่าคลอด รวมถึงไม่ยืดเหยียดแผลมากจนแผลตึงเกินไป ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดแผลคีลอยด์ได้, เวลาลุกนั่ง ยืน หรือเดิน ควรทำอย่างช้า ๆ เพื่อไม่ให้แผลที่หน้าท้องตึงเกินไป, สวมเสื้อผ้าและกางเกงชั้นในที่หลวม ไม่รัดแน่น เพื่อป้องกันการเสียดสีที่แผล, ใส่ผ้ารัดหน้าท้อง เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผล และไม่ให้แผลผ่าตัดถูกดึงรั้งจากผนังหน้าท้องที่ยังหย่อน

อีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหารอยแผลเป็น หรือรอยนูนจากแผลผ่าคลอด ที่ง่ายและได้ผลดี คือ การทายารักษารอยแผลเป็นเพื่อช่วยให้แผลเป็นจางลงและไม่นูน ถ้าเลือกไม่ถูกขอแนะนำแบรนด์ขายดีอย่าง ฮีรูสการ์ ซิลิโคน โปร (Hiruscar Silicone Pro) ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยดูแลรอยแผลเป็น ด้วยการคงความชุ่มชื้นของผิวโดยรักษาสมดุลการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้แผลเป็นอ่อนนุ่มขึ้นและสีจางลง มีส่วนผสมของ Stabilized Vitamin C ช่วยให้รอยแผลเป็นดูจางลง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรเริ่มใช้ทันทีหลังจากบาดแผลปิดสนิท โดยทาหลังจากทำความสะอาดแผล เช้า-เย็น เป็นประจำ อย่างน้อย 2 เดือน นอกจากนี้ การออกกำลังกายเบา ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ จะส่งผลให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นดี ระบบไหลเวียนเลือดดี ช่วยลดการเกิดรอยแตกลาย รวมถึงปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *