เป็นเรื่องธรรมดาที่ระหว่างตั้งครรภ์ กิจกรรมบนเตียงของคู่สามีภรรยาส่วนมากจะลดลง แท้จริงแล้ว ทางการแพทย์ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ ทุกคู่สามารถร่วมรักกันได้ตามปกติ ยกเว้น คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีปัญหาสุขภาพ สูติแพทย์จะแนะนำให้งดในบางช่วงของการตั้งครรภ์เท่านั้น
แต่ปัญหาเรื่องความต้องการทางเพศนี้ อาจทำให้ผู้ชายหลายคนแอบเเว๊บออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่ปัญหาใหญ่คือการนำโรคติดต่อมาสู่คุณแม่ขณะตั้งครรภ์ ส่งผลต่อสุขภาพแม่ หรือ ลูก หรือ ทั้งแม่และลูกในครรภ์ได้
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ขณะตั้งครรภ์ ที่พบได้แก่…
เอดส์ (HIV/AIDS)
อาจตรวจพบบ้างไม่พบบ้างในระหว่างฝากครรภ์ แต่หากตรวจพบก่อนคลอดจะเป็นการดีต่อทารกในครรภ์ และหลังคลอดทารกต้องเข้ารับการรักษาโดยการรับประทานยาต้านตั้งแต่วันแรกที่คลอด
เริม (Herpes )
อาการที่เห็น คือจะมีตุ่มใสบริเวณอวัยวะเพศ เป็นทีก็ปวดแสบปวดร้อน ติดไปแล้วก็จะเป็นๆหายๆ และเป็นไปตลอดชีวิต อาการจะกำเริบตามสุขภาพของเรา หากเป็นเริมที่อวัยวะเพศระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้เชื้อผ่านไปยังทารก ทำให้พิการตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้ และถ้าเป็นในช่วงใกล้ตลอด ทารกจะมีโอกาสเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ ร้อยละ 30-50 จากการคลอด
ซิฟิลิส(Syphilis)
คุณแม่ตั้งครรภ์ถ้าเป็นซิฟิลิสมักจะเป็นชนิดแฝง กล่าวคือ ไม่มีอาการผิดปกติ แต่จะพบความผิดปกติจากการตรวจเลือดเท่านั้น มีน้อยรายที่จะพบลักษณะแผลหรือผื่นจากซิฟิลิส ดังนั้น แม่ตั้งครรภ์ครรภ์ทุกคนควรได้รับการ ตรวจ VDRL หรือ RPRเมื่อท้องอ่อน (1-3 เดือน) 1 ครั้ง และควรตรวจซํ้าอีกครั้ง เมื่อท้องแก่ (6 เดือน-คลอด)
พยาธิ trichomonas
เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว ที่ชื่อTrichomonas vaginalis มีอาการตกขาวเหม็นสีเขียว คันในช่องคลอด หากเป็นโรคนี้ในระหว่างการตั้งครรภ์ โรคพยาธิในช่องคลอดที่มีอาการรุนแรง อาจกระตุ้นให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ แต่จะไม่มีการถ่ายทอดเชื้อไปที่ทารก
หนองในแท้ หนองในเทียม (GC/chlamydia)
2 โรคนี้มักมาด้วยกัน อาจมีแค่ตกขาวหรือลามเข้าไปถึงมดลูก-ปีกมดลูก จนอักเสบเป็นฝีหนอง มีผลทำให้มีบุตรยากหรือท้องนอกมดลูกในภายหลังได้ โรคหนองในที่มีอาการรุนแรง อาจกระตุ้นให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ นอกจากนี้ หากมีเชื้อหนองใน ในช่องคลอดทารกที่คลอดผ่านทางช่องคลอดมีโอกาสที่จะได้รับเชื้อ โดยเฉพาะที่บริเวณเยื่อบุตา ในประเทศไทยจะมีการหยอดตาทารกแรกเกิดด้วย 1% Silver Nitrate ทุกรายเพื่อลดโอกาสในการเกิดการติดเชื้อนี้
หูดหงอนไก่ (genital wart, condyloma acuminata)
มีลักษณะเป็นหูดเกิดที่อวัยวะเพศ รวมทั้งที่ทวารหนัก สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อเรียกว่า human papilloma virus หรือ HPV โดยทั่วไปมักพบเป็นติ่งเนื้อสีชมพูรวมกันเป็นก้อนคล้ายหงอนไก่ ตำแหน่งที่พบบริเวณแคมช่องคลอดและปากมดลูกของเพศหญิง ปกติโรคหูดหงอนไก่จะไม่มีอาการอะไร เว้นเสียแต่อาจมีการฉีกขาดเลือดออก หรือติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม จึงทำให้เกิดการอักเสบเป็นหนองได้ หากมีขนาดใหญ่มาก อาจทำให้เสียเลือดปริมาณมากขณะคลอด จึงต้องคลอดลูกโดยการผ่าตัด
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องเล่นเลยๆ คุณแม่ตั้งครรภ์ควรบอกให้คุณสามีทราบถึงอันตรายที่จะเกิด และพูดคุยสร้างขอตกลงกันเสียแต่เนิ่นๆ นะคะ