ปกติโดยทั่วไปแล้วเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินผักและผลไม้ที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยง อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด หวานจัด เค็มจัด และเผ็ดจัด เพราะอาหารเหล่านี้อาจมีผลกระทบต่อลูกทางอ้อมได้ค่ะ
ปกติเวลาตั้งครรภ์ลำไส้จะทำงานช้าลงเคลื่อนไหวและบีบรัดตัวช้าลง เกิดจากฮอร์โมนโปรเจสเตอรโรนที่มีระดับความสูงขึ้น เป็นกลไกการป้องกันการแท้งอย่างหนึ่ง เมื่อกระเพาะอาหารทำงานช้าลงระบบย่อยอาหารก็จะทำงานช้าลงด้วย คุณแม่หลายท่านจึงมีอาการแทรกซ้อนที่เรียกว่า กรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์ อาการนี้จะทำให้คุณแม่แสบร้อนกลางอก และยิ่งชอบกินอาหารที่มีรสเผ็ดจัด ยิ่งทำให้อาการดังกล่าวเป็นหนักกว่าเดิม
นอกจากอาการกรดไหลย้อนที่คุณแม่ตั้งครรภ์เสี่ยงจะเป็นแล้วการทานเผ็ดมากๆ อาจทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองหรืออักเสบได้ และเมื่อกระเพาะอาหารอักเสบจะทำให้ระบบการดูดซึมอาหารหรือการทำงานของระบบทางเดินอาหารผิดปกติ สาเหตุนี้จะส่งผลไปถึงทารก อาจทำให้ทารกได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ทำให้ทารกในครรภ์เติบโตช้ากว่าที่ควรจะเป็น
การกินเผ็ดของคุณแม่มีผลเสียกับลูกเพียงทางอ้อมเท่านั้นค่ะ และไม่เกี่ยวอะไรกับที่มีคนบอกว่าคนท้องกินเผ็ดมากๆผมลูกจะไม่ขึ้น เลยค่ะ
ดังนั้นเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ทราบแล้วว่าการกินเผ็ดส่งผลเสียอย่างไร ก็ควรหลีกเลี่ยงหรือลดการกินให้น้อยลงก็ได้ค่ะ โดยเฉพาะช่วงแรกๆถ้ามีอาการแพ้ท้องควรเลือกกินของอ่อนๆ เช่น น้ำซุป โจ๊ก ข้าวต้ม กินครั้งละน้อยๆแต่กินให้บ่อยๆ วันละหลายมื้อ อาหารที่กล่าวมาช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ดีมากค่ะ
ในช่วงแม่แพ้ท้องคุณแม่บางคนอาจจะรับประทานอาหารได้ยากหน่อย มักจะชอบกินอาหารรสชาติแปลกๆ ซึ่งรสเผ็ดก็ถือว่าเป็นรสชาติแปลกๆ เหมือนกัน หากการกินเผ็ดนิดๆ หน่อยๆ ทำให้คุณแม่ทานอาหารได้มากขึ้น ก็สามารถกินได้ แต่ไม่ควรกินเผ็ดจัดๆ จนมีผลกระทบต่อระบบการย่อยอาหารนะคะ