“ไอโอดีน” เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ใช้สร้างฮอร์โมนไทรอยด์ ควบคุมการเผาผลาญสารอาหารต่าง ๆ ในร่างกาย จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง ร่างกายของคนเราต้องการไอโอดีนทุกวัน แม้เพียงเล็กน้อย แต่ก็ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ หากขาดไอโอดีน จะส่งผลร้ายทั้งกับแม่และลูก
หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมลูก 6 เดือน จะมีความต้องการไอโอดีนมากกว่าคนทั่วไปคือวันละ 250 ไมโครกรัม (เด็กแรกเกิด – 5 ปี 90 ไมโครกรัม, เด็กอายุ 6-12 ปี 90 ไมโครกรัม, วัยรุ่น – ผู้ใหญ่ 90 ไมโครกรัม) เนื่องจากในหญิงตั้งครรภ์จะมีการทำงานของไตที่หนักกว่าคนทั่วไป ทำให้เกิดการขับไอโอดีนออกจากร่างกายปริมาณมากกว่าคนทั่วไป จึงควรบริโภคไอโอดีนให้มากกว่าปกติ
นอกจากนี้ ทารกในครรภ์มารดามีการเจริญเติบโตของระบบประสาทตั้งแต่ในครรภ์ จึงควรได้รับไอโอดีนซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเซลล์ประสาทและสมองในปริมาณที่เพียงพอ หากหญิงตั้งครรภ์ได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ทารกในครรภ์ขาดสารไอโอดีนไปด้วย เนื่องจากไอโอดีนเป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ในทารกจะต้องได้รับจากมารดาเท่านั้น โดยไอโอดีนจะถูกส่งไปยังทารกในครรภ์ผ่านทางรก
ผลของการขาดไอโอดีนกับหญิงตั้งครรภ์
– ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ไม่ดี
– ร่างกายอ่อนเพลีย เฉื่อยชา มีประสิทธิภาพการทำงานลดลง
– เสี่ยงเกิดโรคคอหอยพอก
– เสี่ยงภาวะมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมและมะเร็งกระเพาะอาหาร
ผลของการขาดไอโอดีนกับเด็กในครรภ์
– ทารกอาจตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือแท้ง
– ทารกพิการแต่กำเนิดหรือปัญญาอ่อน
– ต่อมไทรอยด์ไม่ทำงานแต่กำเนิด
– เด็กมีการเจริญเติบโตของร่างกายช้า ร่างกายแคระแกร็น กล้ามเนื้ออ่อนแรง
– เด็กโตขึ้นมีความบ่งพร่องทางสติปัญญา เรียนรู้ช้า
วิธีป้องกันการขาดสารไอโอดีนในคุณแม่ตั้งครรภ์
1. เลือกบริโภคอาหารทะเล ซึ่งเป็นแหล่งของไอโอดีนเป็นประจำ เช่น ปลาทู หอย กุ้ง ปู สาหร่ายทะเล
2. เลือกใช้เกลือเสริมไอโอดีน และเครื่องปรุงรสเสริมไอโอดีนในการปรุงประกอบอาหารทุกมื้อ โดยรับประทานเกลือเสริมไอโอดีนวันละไม่เกิน 1 ช้อนชา น้ำปลา หรือซีอิ๊วเสริมไอโอดีน ไม่เกินวันละ 5 ช้อนชา
3. กินยาเม็ดเสริมไอโอดีนวันละ 1 เม็ดทุกวัน โดยยาเม็ดเสริมไอโอดีนที่ให้หญิงตั้งครรภ์กิน ไม่ทำให้ลูกในครรภ์ตัวโตผิดปกติ แต่ทำให้ลูกมีความสมบูรณ์ ทั้งสมองและการเจริญเติบโตเป็นไปตามปกติ
เพื่อป้องกันการขาดสารไอโอดีทั้งกับตัวคุณแม่และเบบี๋ในท้อง ทางที่ดีสำหรับการรับสารไอโอดีนของหญิงตั้งครรภ์ควรได้รับก่อนตั้งครรภ์เป็นเวลา 5 เดือน หากมีการวางแผนที่จะมีบุตร