อยากมีลูก แต่หยุดงานไม่ได้ ลาออกก็ขาดรายได้ จะทำงานก็กลัวจะเครียด กลัวพักผ่อนไม่เพียงพอ ท้องแล้วก็ไม่กล้าบอกเจ้านาย กลัวเค้าให้ออก ฯลฯ
ปัญหาเหล่านี้หลายคนคงเคยกังวลกันมาแล้ว แต่ปัจจุบันนี้คุณแม่ที่เป็น Working mom และสามารถทำงานได้จนช่วงใกล้คลอดก็มีให้เห็นกันถมถืด ดังนั้นคุณแม่ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพียงแต่ต้องวางแผนชีวิตให้เหมาะสมรัดกุม ตามข้อแนะนำต่อไปนี้
บอกข่าวดีกับเจ้านายของคุณ
ว่าที่คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะรอให้ผ่านสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ไปก่อนแล้วจึงแจ้งข่าวให้คนอื่นๆ ทราบ แต่อย่างน้อยคนแรกในที่ทำงานที่คุณควรบอกให้ทราบ ก็คือเจ้านายของคุณเอง เพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพและการให้เกียรติผู้บังคับบัญชาของคุณเองค่ะ นอกจากนั้น หากคุณมีอาการแพ้ท้องอย่างหนักในตอนเช้า และไม่สามารถไปทำงานได้ การที่เจ้านายคุณได้ทราบข่าวแล้ว คุณอาจขอให้เขาช่วยคุณปิดเรื่องนี้ได้ ในกรณีที่คุณยังไม่ต้องการให้คนอื่นรู้จนกว่าจะพ้นช่วงอันตรายนี้ไปก่อนได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม การบอกให้คนรอบตัวคุณทราบข่าวดีนี้ จะทำให้พวกเขาเพิ่มความระมัดระวัง และช่วยกันดูแลทะนุถนอมคุณและลูกน้อยในท้องให้มากยิ่งขึ้น หากมีใครยังมาหยอกล้อกับคุณแรงๆ เหมือนเดิม คงไม่เข้าทีแน่ๆ ใช่ไหมคะ
วางแผนการลาคลอด
ตามกฎหมายคุณสามารถลาคลอดได้ 90 วัน คุณจึงควรนัดคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของบริษัทคุณ เพื่อแจ้งแผนการลาคลอด โดยนำใบรับรองจากแพทย์ มายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเป็นหลักฐาน เพื่อยืนยันกำหนดวันคลอดของคุณ
ส่งไม้รับไม้ให้ราบรื่น
หลังจากที่คุณบอกข่าวดีกับเจ้านายแล้ว คุณควรหารือกับเจ้านายว่าจะให้ใครมาช่วยทำงานในช่วงที่คุณไม่อยู่ เพื่อให้งานของคุณสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่นเรียบร้อย คุณควรอธิบายงานให้คนที่รับช่วงต่อได้ทราบว่ามีอะไรบ้างที่ต้องทำให้เสร็จในช่วงที่คุณไม่อยู่ หากคุณมีลูกค้าสำคัญ คุณควรแจ้งให้เขาทราบว่าเขาสามารถติดต่อกับใครแทนคุณได้ ถึงแม้สิ่งนี้อาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็เป็นมารยาทอย่างหนึ่งที่มืออาชีพพึงมีนะคะ
กำหนดขอบเขตความเป็นส่วนตัว
เป็นเรื่องปกติของคนที่กำลังตั้งครรภ์ มักจะมีใครต่อใครมารุมสนใจ ขอจับท้องของคุณ ฟังเสียง และพูดคุยกับเจ้าตัวเล็กในท้องของคุณ ซึ่งอาจเป็นการรบกวนคุณโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว คุณอาจขอให้พวกเขาหยุดรบกวนคุณ โดยแกล้งพูดติดตลกว่า “เจ้าตัวเล็กของฉันฝากมาบอกว่า เขาต้องการพักผ่อนเงียบๆ” ถ้าพวกเขายังไม่เข้าใจ คุณอาจต้องพูดตรงๆ ไปเลย “กรุณาอย่าจับท้องฉันเลยค่ะ!!”
ระวังเรื่องการเลือกปฏิบัติ
ในช่วงเวลาที่คุณตั้งครรภ์ เจ้านายของคุณอาจกลัวว่า เขาจะใช้งานคุณหนักเกินไป จึงให้งานคุณน้อยกว่าคนอื่น ส่วนตัวคุณเองก็กลัวว่าจะเป็นการเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน หากคุณไม่สบายใจที่เขาปฏิบัติกับคุณต่างจากที่ปฏิบัติกับพนักงานคนอื่น คุณควรอธิบายให้เจ้านายคุณทราบว่าคุณไม่ได้ต้องการการเลือกปฏิบัติ คุณยังสามารถทำงานได้ตามเดิม เพียงแต่ต้องหลีกเลี่ยงงานบางอย่างที่จะเป็นอันตรายต่อเด็กในท้อง เช่น งานที่ต้องยกของหนัก หรืองานที่ต้องยืนเป็นเวลานาน เป็นต้น
เพียงเท่านี้ Working mom ก็สบายใจกับการทำงานแล้วค่ะ แต่สำคัญที่สุดก็คือ คุณแม่ต้องคำนึงถึงสุขภาพของตัวเองและลูกน้อยเป็นสำคัญนะคะ อย่าโหมทำงานหนักเกินไป มิฉะนั้นจะได้ไม่คุ้มเสียนะคะ