คุณแม่ตั้งครรภ์คงเคยได้ยินได้ฟังข้อมูลมาหลากหลาย ว่าห้ามทำนู่นนี่นั่นขณะตั้งครรภ์ หลายอย่างก็เป็นแค่ความเชื่อ แต่หลายอย่างก็เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือนะคะ อะไร Yes อะไร No ไปดูกันค่ะ
ยิงเลเซอร์รักษาผิว
การใช้แสงเลเซอร์เพื่อการรักษาโรคทางผิวหนังชนิดต่าง ๆ ไม่มีอันตรายอะไรต่อทั้งตัวคุณแม่และทารกในครรภ์ค่ะ เพราะปริมาณและความรุนแรงของแสงเลเซอร์ที่ใช้ต่ำมาก อย่างไรก็ตามถ้ารู้ตัวว่าตั้งครรภ์แล้ว ไม่แนะนำให้รักษาอะไรเกี่ยวกับผิวหนังที่ไม่จำเป็นและรีบด่วน เนื่องจากผิวหนังของคนท้องจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่น อาจจะมีการแตกมีสีเข้มขึ้น หรือมีสิวขึ้นได้มากกว่าปกติ การรีบให้การดูแลรักษาโรคทางผิวหนังบางชนิดนอกจากจะไม่ช่วยให้โรคดีขึ้นหรือหายแล้ว ยังอาจกระตุ้นให้มีริ้วรอยที่ผิวหนังมากขึ้นด้วย
อบซาวน่า
การอบซาวน่าก็สามารถทำได้ค่ะ แต่ข้อที่ควรระวังก็คือ การอบซาวน่าอาจทำให้ร่างกายของคุณแม่เสี่ยงที่จะได้รับความร้อนที่สูงมากเกินไปจนเป็นลมได้ การอบซาวน่านั้นแนะนำว่าควรจะอบด้วยเวลาไม่นานเกินกว่า 5 นาที และในห้องที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 82 องศาเซลเซียส แต่ในระหว่างที่กำลังอบอยู่ ถ้าคุณแม่รู้สึกไม่สบายหรือจะเป็นลมต้องรีบออกจากซาวน่าทันที นอกจากนี้ก่อนที่จะอบซาวน่าคุณแม่ควรที่จะดื่มน้ำให้เพียงพอนะคะ เพราะความร้อนจากซาวน่า อาจทำให้คุณแม่มีอาการขาดน้ำจนช็อกและหมดสติได้
ถอนฟัน
มีความเชื่อกันว่า เวลาตั้งท้องห้ามทำฟัน ความจริงการทำฟันขณะตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่ทำได้ค่ะเพียงแต่ต้องให้ความระมัดระวังมากสักหน่อย ในคุณแม่ที่จำเป็นต้องถอนฟันอาจจะทำให้มีเลือดออกได้มากกว่าคนที่ไม่ตั้งครรภ์บ้าง หมอฟันจึงมักจะหลีกเลี่ยงที่การถอนฟันของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ทำได้ครับ ในคุณแม่บางรายที่มีปัญหาต้องกรอฟันเป็นเวลานาน ๆ อาจจะทำให้เกิดอาการเกร็ง ถ้าเคยมีประวัติหรือมีความเสี่ยงจะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด อาจจะทำให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้ ดังนั้นเรื่องการถอนฟันต้องบอกว่าทำได้แต่ขึ้นอยูกับการพิจารณาของคุณหมอเป็นรายกรณีไปค่ะ
ขึ้นเครื่องบิน
การเดินทางโดยเครื่องบิน ถ้าเป็นช่วงที่ตั้งครรภ์ใหม่ ๆ ท้องยังไม่โตสายการบินส่วนมากก็มักจะไม่ค่อยมาถามคุณแม่หรอกค่ะว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า แต่เมื่อท้องแก่จนพุงโย้แล้ว สายการบินส่วนมากมักจะไม่ยินยอมให้คุณแม่ขึ้นเครื่องบินของเขา เพราะเขากลัวว่าคุณแม่จะไปคลอดบนเครื่องบิน ก็คงต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไปอีกนั่งแหละค่ะ
ดื่มกาแฟ
จากความเชื่อที่มีกันเป็นเวลานานโดยไม่มีข้อมูลหลักฐานทางการแพทย์รองรับเลยเกี่ยวกับการดื่มกาแฟก็คือในกาแฟมีสารคาเฟอีนซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ การดื่มกาแฟเป็นประจำจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ยิ่งในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ก็ยิ่งควรงดการดื่มกาแฟไปเลยก็จะยิ่งดี เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ ความเชื่อดังกล่าวได้รับการพิสูจน์จากการวิจัยทางการแพทย์หลายการวิจัยแล้วว่า สตรีตั้งครรภ์ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ ถ้าดื่มในปริมาณที่ไม่มากเกินไป เช่นน้อยกว่า 5 ถ้วยต่อวัน ไม่ได้มีผลทำให้ทารกพิการ คลอดก่อนกำหนด หรือคลอดลูกออกมาตัวเล็กแต่อย่างใด มีเพียงบางการศึกษาที่พบว่าถ้าคุณแม่ดื่มกาแฟในปริมาณที่มากในแต่ละวัน เช่น มากกว่า 5 ถ้วยและดื่มต่อเนื่องกันตลอดการตั้งครรภ์ อาจจะเสี่ยงทำให้แท้งบุตรได้บ้าง จากข้อมูลข้างต้นพอสรุปได้ว่า การดื่มกาแฟขณะตั้งครรภ์ไม่มีอันตรายค่ะ คุณแม่สามารถดื่มได้แต่อย่าดื่มในปริมาณที่มากเกินไป
นอกจากนี้มีข้อแนะนำของสมาคมโภชนาการแห่งสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการดื่มกาแฟว่า ในขณะตั้งครรภ์ถ้าคุณแม่จะดื่มกาแฟกี่ดื่มได้ แต่ควรจะดื่มในปริมาณที่น้อยกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณ 3 ถ้วย (ขนาด 5 ออนซ์) ต่อวัน
ได้รับข้อมูลอย่างนี้คงสบายใจขึ้นแล้วนะคะ แต่อย่างไรก็ตามคุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละคนก็มีภาวะสุขภาพที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นคุณแม่ควรปรึกษาสูตินารีแพทย์ที่คุณแม่ฝากครรภ์จะเป็นการดีที่สุดค่ะ คุณแม่ขา