“ธาตุเหล็ก” มีความสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะกับคุณแม่ท้อง เพราะเป็นส่วนประกอบสำคัญของเฮโมโกบิน ซึ่งจะเป็นตัวนำอาหารและออกซิเจนไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งไปสู่รกด้วย ฉะนั้น หากคุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งตัวเองและลูกน้อยได้ค่ะ
4 อาการที่สังเกตว่าร่างกายคุณแม่มีแนวโน้มขาดธาตุเหล็ก
- หน้าซีดขาว เปลือกตาด้านในซีด ปากซีด ตัวซีดหรือขาวอมเหลือง
- ลิ้นจะมีลักษณะเลี่ยนๆ (ไม่มีเม็ดนูนๆ ขึ้นที่ผิวลิ้น) มีแผลปากเปื่อยได้ง่าย หรือลิ้นบวม อาจทำให้เคี้ยวอาหารลำบาก แปรงฟันลำบาก หรือหากลิ้นบวมหนักมากอาจพูดไม่ชัดได้
- ริมฝีปากแห้งแตก โดยเฉพาะบริเวณมุมปาก และอาจมีอาการเจ็บร่วมด้วย จนอ้าปากกว้างๆ ได้ยาก กินอาหารลำบาก หรือแม้กระทั่งตอนยิ้มหรือเปล่งเสียง
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เป็นลมง่าย ลุกขึ้นยืนเร็วๆ ก็จะวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ซึ่งเกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
ผลกระทบของคุณแม่ท้องที่ขาดธาตุเหล็ก มีทั้งภาวะเสี่ยงตอนคลอด เช่น เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะเนื้อเยื่อต่างๆ มีภูมิต้านทานน้อยลง ออกซิเจนที่จะมาซ่อมแซมแผลหรือส่วนที่สึกหรอก็ลดลง แผลจะเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
ในบางกรณีที่ตกเลือด คุณแม่ที่ไม่ได้กินธาตุเหล็กสะสมเอาไว้ จนอยู่ในภาวะโลหิตจาง อาจจะมีความดันโลหิตต่ำถึงขั้นช็อกได้
เมื่อร่างกายช็อก ผลที่ตามมา คือ เลือดไปเลี้ยงร่างกายบางส่วนไม่พอ เนื่องจากธรรมชาติจะเอาเลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญเพื่อการดำรงชีวิตก่อน เช่น สมอง ตับ ไต ปอด หัวใจ โดยมดลูกมีความสำคัญน้อยลงมา ทำให้เลือดถูกส่งไปเลี้ยงน้อย มดลูกก็จะไม่บีบตัว ยิ่งตกเลือดมากขึ้น ซึ่งอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
ส่วนเจ้าตัวเล็กก็จะได้รับผลเสียจากการขาดธาตุเหล็กทางอ้อม คือได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการคลอดก่อนกำหนดและภาวะเติบโตช้าในครรภ์ มีน้ำหนักน้อย อาจทำให้เบบี๋ในครรภ์โลหิตจาง ซึ่งหากโลหิตจางมาก อาจทำให้เกิดน้ำคร่ำน้อย ทำให้เด็กเสียชีวิตในครรภ์ได้
นอกจากนี้ คุณแม่ท้องควรระวังการกินอาหารบางประเภทที่อาจขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย เช่น ผลิตภัณฑ์นม ถั่วเหลือง ข้าวไม่ขัดสี ชา กาแฟ เพราะอาจเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็กได้ค่ะ