หยุดยาวช่วงสงกรานต์ทั้งที หาอะไรทำเติมความสุขดีกว่า ยิ่งในวันครอบครัวเช่นนี้เป็นโอกาสดีที่ได้ทำอะไรแบบพร้อมหน้าพร้อมตากับเหล่าญาติสนิทมิตรสหายผู้เป็นที่รัก แต่ในสถานการณ์ที่โควิดยังแพร่ระบาดเช่นนี้ คุณแม่ท้องสามารถทำกิจกรรมใดที่ปลอดภัยต่อเบบี๋ รวมถึงไม่เสี่ยงติดโควิดบ้างนะ?
4 กิจกรรมครอบครัวช่วงสงกรานต์สำหรับคุณแม่ท้อง
1. สรงน้ำพระ
เสริมความเป็นสิริมงคลให้ตัวเองและครอบครัวในช่วงปีใหม่ไทยด้วยการสรงน้ำพระ ไม่จำเป็นต้องออกไปสรงน้ำที่วัดให้เสี่ยงโควิดแต่อย่างใด พระพุทธรูปองค์ในบ้านเราก็สามารถสรงได้เช่นกัน โดยการสรงน้ำพระพุทธรูปในบ้านควรจะสรงทีละคน ต่อคิวกัน มีการเว้นระยะห่าง และใช้ภาชนะของตนเอง เช่น ขันตักน้ำ หากต้องใช้ขันตักน้ำร่วมกัน ควรทำความสะอาดก่อนการสรงน้ำทุกครั้ง
2. ไปเยี่ยมญาติสนิทมิตรสหาย
นานทีปีหน ไปเจอกันหน่อยให้หายคิดถึง ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่หลายครอบครัวมักรวมตัวกันเพื่อพบปะสังสรรค์กินข้าวร่วมกัน หรือไปเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่ที่รัก เพื่อความปลอดภัยอย่าลืมสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและถอดหน้ากากน้อยที่สุด เช่น เฉพาะกินอาหารหรือเครื่องดื่มแล้วใส่หน้ากากอนามัยกลับโดยเร็ว ลดการพูดคุยระหว่างตักและกินอาหาร งดกิจกรรมหรือลดการเปิดเพลงเสียงดังที่ทำให้ต้องพูดเสียงดังตะโกนหรือร้องเพลง
3. ช้อปปิ้ง
หนึ่งในกิจกรรมที่คุณผู้หญิงโปรดปรานมากที่สุดหนีไม่พ้น การช้อปปิ้ง แม้ว่าจะตั้งครรภ์แล้ว การช้อปปิ้งก็ยังช่วยให้เพลิดเพลินได้เสมอ ในเทศกาลพิเศษเช่นนี้ ไม่ต้องเสี่ยงโควิดด้วยการช้อปนอกบ้าน ช้อปออนไลน์ก็ฟินไม่แพ้กัน ทั้งสะดวกสบายแถมมีโปรโมชั่นและส่วนลดต่าง ๆ จัดเต็มไม่แพ้ในห้าง ว่าแล้วก็รีบชวนคุณสามีมาช่วยกันเลือกข้าวของเครื่องใช้ให้เบบี๋ นอกจากได้ใช้เวลาร่วมกันแล้ว ยังมีคนช่วยเบรกช่วยติด้วย ผลคือได้ของที่ถูกใจทุกคนและคุ้มค่าที่สุด
4. ปลูกต้นไม้ จัดสวน
เริ่มจากชวนกันออกไปช้อปปิ้งต้นไม้ตามตลาดต้นไม้ (อย่าลืมใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือให้สะอาด) ส่วนเวลาปลูกต้นไม้หรือตัดแต่งสวน ควรเลือกทำในช่วงเช้าหรือเย็นเพราะอากาศไม่ร้อนมาก จะปลูกเป็นไม้ประดับเพื่อความสวยงาม หรือผักสวนครัวไว้ใช้ประกอบอาหารก็แล้วแต่ความชอบและพื้นที่ในบ้าน นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันสร้างสัมพันธ์อันดีกับสมาชิกในครอบครัวแล้ว ยังทำให้บ้านมีชีวิตชีวาน่าอยู่ แถมยังช่วยลดโลกร้อนด้วย
อย่างไรก็ตาม ยิ่งใกล้คลอดเท่าไหร่คุณแม่ท้องควรระมัดระวังตัวเองให้มาก ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน เพราะเป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงต่อการกระทบกระเทือนถึงลูกน้อยในครรภ์ รวมถึงเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดได้