หากคุณแม่ท้องมีลูกเล็กที่ต้องดูแลอีก 1 คน สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือการเตรียมรับมือให้ดี เพราะหากไม่มีการเตรียมรับมือ มีหวังคุณแม่ท้องคงได้เหนื่อยเป็นแน่ เพราะไหนจะต้องปั๊มน้ำนมเก็บเอาไว้ก่อน หรือบางครั้งหากคุณแม่ท้องให้ลูกน้อยดูดนมจากเต้า ก็ให้สังเกตด้วยว่าในขณะที่ลูกน้อยดูดนมนั้น รู้สึกว่ามดลูกมีการบีบรัดตัวหรือไม่
หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดให้นมก่อนนะคะ เพราะการให้ลูกดูดนมโดยเฉพาะช่วงที่อายุครรภ์มากแล้วนั้น จะกระตุ้นให้ฮอร์โมนออกซิโตซินหลั่งมาจากต่อมใต้สมองมากขึ้น ทำให้เกิดการบีบรัดตัวของมดลูก ซึ่งเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดหรือแท้งได้ค่ะ
บริหารจัดการอย่างไรให้ Happy ทั้งแม่ท้องและลูกน้อย
- สนุกได้กับเจ้าตัวเล็ก
ถึงแม้จะไม่สามารถให้นมได้มาก และอุ้มลูกอีกคนได้นานๆ แต่คุณแม่ท้องก็สามารถสนุกกับลูกทั้งสองคนไปพร้อมๆ กันได้ค่ะ ด้วยการเล่นสนุกกับกิจกรรมต่างๆ เช่น ร้องเพลงหรืออ่านนิทานให้ลูกฟังพร้อมกัน หรือถ้าลูกคนโตเริ่มพูดได้แล้ว อาจให้ลูกคุยหรือร้องเพลงให้น้องในท้องฟังก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยให้ลูกน้อยอารมณ์ดี ทั้งนี้การเลือกเล่นกิจกรรมต่างๆ คุณแม่ท้องต้องระวังอย่าใช้แรงเยอะนะคะ เพราะจะกระทบต่อลูกในท้องได้
- หาผู้ช่วยข้างกาย
การรับมือกับภารกิจต่างๆ คุณแม่ท้องต้องหาผู้ช่วยมาแบ่งเบาภาระค่ะ เพราะการเลี้ยงลูกไปพร้อมๆ กับการตั้งครรภ์นั้น จะเพิ่มความเหนื่อย อ่อนเพลีย และส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่ท้องเป็น 2 เท่า รวมถึงทำให้เกิดความเครียด และความกดดันกับการทำอะไรหลายอย่างไปพร้อมกัน การหาผู้ช่วยมาช่วยมาดูแลงานเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้าน จึงเป็นเรื่องดีไม่น้อย เพราะคุณแม่จะได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งผู้ช่วยอาจจะเป็นคุณพ่อ ญาติสนิท หรือพี่เลี้ยง ที่สามารถไว้วางใจได้ค่ะ
- อย่าลืมสุขภาพคุณแม่กับลูกน้อยในครรภ์
นั่นคือเรื่องอาหารกับการออกกำลังกาย โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งคลอด น้ำหนักตัวยังไม่ลดลงง่ายๆ อย่างแน่นอน การดูแลใส่ใจ 2 สิ่งนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่างเรื่องอาหาร ควรทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เพราะคุณแม่ต้องใช้พลังงานสำหรับลูกทั้ง 2 คน เน้นอาหารที่มีโปรตีน และแคลเซียมสูง ควรลดอาหารที่มีแป้ง ไขมันสูง รวมถึงขนมจุบจิบด้วยค่ะ ส่วนการออกกำลังกายต้องระมัดระวังให้มากนะคะ ซึ่งคุณแม่ท้องสามารถออกกำลังกายง่ายๆ ได้โดยการพาลูกไปเดินเล่น หรือพากันไปว่ายน้ำก็ได้ค่ะ
- อารมณ์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ทางที่ดีควรหมั่นทำให้สุขภาพจิตของตัวเองดี และผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคุณแม่อาจจะคุยกับลูกตัวน้อย หรือหาสถานที่พักผ่อนไปเที่ยวกับสามีกับลูก หรือพูดคุยกับเพื่อนในเรื่องที่ช่วยให้คุณสบายใจ เท่านี้ก็จะช่วยให้คุณแม่ท้องรู้สึกผ่อนคลาย รวมถึงทำให้มีกำลังใจในดูแลลูกน้อยในครรภ์ รวมถึงลูกน้อยอีกคนด้วยค่ะ
ขอให้คุณแม่ท้องที่ต้องเลี้ยงลูกไปด้วยมีช่วงเวลาดีๆ และสนุกสนานไปกับการดูแลเจ้าเล็กระหว่างรอเบบี๋อีกคนที่กำลังจะเกิดมาด้วยสุขภาพกายและสุขภาพใจที่เข้มแข็งนะคะคุณแม่ขา
