ในเด็กเล็กการพัฒนากล้ามเนื้อของข้อมือยังไม่ดีนัก เด็กจึงไม่สามารถแปรงฟันให้สะอาดอย่างทั่วถึงทุกซี่ทุกด้าน พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูจึงควรแปรงฟันให้ พร้อมกับการฝึกให้เด็กแปรงฟันหน้ากระจกเงา เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ถึงวิธีการแปรงฟันให้สะอาดอย่างทั่วถึง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคในช่องปากขึ้นกับเจ้าตัวซน
โรคฟันผุและเหงือกอักเสบ คือโรคในช่องปากที่พบมากในเด็กวัยประถมศึกษา ซึ่งทั้ง 2 โรคนี้สามารถป้องกันได้
เคล็ดลับดูแลสุขภาพช่องปากเด็กวัยซนอย่างถูกวิธี
- ควบคุมการบริโภคอาหารที่มีผลต่อฟันของเด็ก อาหารบางชนิดมีผลโดยตรงต่อฟันถ้ารับประทานเข้าไปแล้ว รักษาความสะอาดช่องปากได้ไม่ดีพอ จะทำให้เกิดโรคได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาล และแป้งที่ย่อยสลายเป็นกรดได้ เช่น ขนมปัง คุกกี้ ขนมเค้ก ขนมอบกรอบ ฯลฯ เครื่องดื่มที่มีกรด เช่นน้ำอัดลมต่างๆ
- ถ้าจำเป็นต้องให้เด็กรับประทานอาหารอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ควรสอนและปลูกฝังให้เด็กรีบบ้วนปาก หรือแปรงฟันทันทีหลังจากรับประทานอาหารเหล่านี้
- ของว่างที่ควรให้เด็กรับประทานควรเป็นอาหารประเภทถั่วหรือผลไม้สด เพราะจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย และไม่มีผลเสียต่อฟัน
- ปลูกฝังให้เด็กรักษาอนามัยช่องปากอย่างถูกวิธี ซึ่งการรักษาอนามัยช่องปากที่ดีที่สุด คือการแปรงฟัน โดยการแปรงฟันทำได้หลายวิธี และไม่ว่าจะแปรงฟันด้วยวิธีใดก็ตามหลักสำคัญคือ ต้องทำให้ฟันและปากสะอาด ไม่เป็นอันตรายต่อเหงือกและฟัน
- เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่มมีขนาดเหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง โดยเน้นเวลาเช้าและก่อนนอน และอย่าให้เด็กใช้แรงมากขณะแปรงฟัน
- พาเจ้าตัวซนไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คสุขภาพช่องปากสม่ำเสมอ อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน
พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรปลูกฝังและสร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพช่องปากที่ดีให้ลูกน้อย เพื่อจะนำไปสู่การปฏิบัติตัว เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีของเด็กต่อไปค่ะ