เช่นเดียวกับ เด็กวัยกำลังเรียนรู้ทุกคน ที่เด็กๆ มักจะเริ่มจากการเขียนหวัดๆ กันก่อน แต่คุณพ่อคุณแม่อาจจะกำลังเริ่มคิดว่ามันกจะสายไปหรือไม่ บางทีอาจจะถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนจากการเขียนแบบไม่รู้ทิศทาง มาเป็นการเขียนที่ถูกต้องมากขึ้น ซึ่งอาจจะเริ่มต้นด้วยชื่อของเขาเอง

สิ่งหนึ่งของการเริ่มต้นในการให้เด็กเรียนรู้การเขียนชื่อของตัวเอง ก็คือต้องบอกว่า “เขาคือใคร” ลองให้เด็กได้พูดถึงตัวเองว่าเขานั้นเป็นใคร มีตัวอักษรใดบ้างในชื่อของเค้า เพราะจะเป็นคำๆ ที่เขานั้นจะต้องได้ยินไปตลอดชีวิต

แล้วจะเริ่มต้นสอนลูกให้เขียนชื่อตัวเองได้อย่างไรล่ะ? เราจึงมีข้อแนะนำดีๆ ในการเริ่มต้นสอนลูกให้เขียนหนังสือง่ายๆ มาฝาก

จำไว้ว่า : ต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูงในช่วงเริ่มต้นครั้งแรก และอาจจะใช้เวลาค่อนข้างนานที่จะกระตุ้นให้ลูกรู้สึกว่าจะต้องเริ่มอะไรที่ถูกต้องและจริงจัง แต่ไม่เป็นไรเลยถ้าลูกของคุณยังเขียนไม่ได้ เพราะการฝึกฝนนี้จะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

วิธีการที่ 1 มอบรางวัล

เด็กเล็กชอบที่จะได้รับการปรนนิบัติอย่างดี ดังนั้น การสร้างแรงจูงใจที่ดีหลังจากที่เขาทำตามขั้นตอนในการเรียนรู้การเขียนชื่อของเขาได้ถูกต้องแล้ว คุณสามารถเสนอรางวัลบางอย่างให้กับลูกได้ เช่น ผลไม้ สติกเกอร์ดาวบนชาร์ต ไอศครีม โยเกิร์ต ช็อกโกแลต หนังสือ หรือของเล่นใหม่ก็ได้

ขั้นแรก – เตรียมไวท์บอร์ดเล็กๆ หรือกระดาษหนึ่งแผ่นก็ได้ พร้อมปากกาหรือดินสอ พร้อมกับคิดเอาไว้ในใจแล้วว่าจะเลือกอะไรเป็นของรางวัลให้กับลูกหลังการฝึกฝนแล้ว

ขั้นสอง – ให้ลูกของคุณนั่งลงบนโต๊ะ คุณนั่งข้างๆ เขาพร้อมกับอธิบายให้ฟังว่าวันี้เราจะมาทำอะไรบางอย่างซึ่งสนุกมากๆ นั่นก็คือ เรียนการเขียนชื่อของหนูไงละค่ะ/ครับ

ขั้นสาม – จัดอุปกรณ์ทั้งหมดวางลงตรงหน้าของเค้า และคุณก็เริ่มเขียนชื่อของลูกลงไปด้วยตัวอักษรที่ใหญ่ๆ ชัดเจน และอธิบายว่านี่คือวิธีการเขียนชื่อของเค้า

ขั้นสี่ – จากนั้นคุณก็เขียนชื่อของลูกอีกครั้ง แต่หนนี้ให้ใช้วิธีเขียนเป็นจุดๆ หรือเส้นประแทน แล้วก็ให้ลุกลากไปตามรอยนั้น 2-3 ครั้ง จนกระทั่งแม่นยำพอ และให้เขาเกิดความมั่นใจมากขึ้น ลองขอให้เขาเขียนแบบนี้ด้วยตัวเองบ้างแบบไร้รอยจุดหรือเส้นประ

ขั้นห้า – ชื่นชมลูกหลังจากทำงานเรียบร้อยแล้ว และให้รางวัลเขาตามที่คุณเห็นว่าเหมาะสม ดำเนินการฝึกฝนต่อไปในอีก 2-3 วัน จนกระทั่งเขาสามารถเขียนชื่อตัวเองได้แล้ว

วิธีการที่ 2 ใช้ปากกาไฮไลท์

เด็กๆ ชอบอะไรที่สีสันสดใส ดังนั้น ทำไมไม่ลองอะไรที่ท้าทายพวกเขาด้วยการสอนให้ลูกเขียนชื่อด้วยปากกาสีๆ ดูบ้างล่ะ ที่คุณต้องใช้ก็แค่ปากกาไฮไลท์หลากหลายสีเท่านั้น

ขั้นแรก – เขียนชื่อของเขาหลายๆ ครั้งลงบนกระดาษ ใช้ปากกาสีไฮไลท์สีสดๆ ที่เตรียมมาเขียนลงไปเลย

ขั้นสอง – โชว์ให้ลูกดูวิธีการเขียนทำลงบนรอยไฮไลท์บนตัวอักษรที่คุณเขียน อาจจะใช้ดินสอก็ได้ ครั้งแรกให้คุณทำให้ลูกดูก่อน จากนั้นขอให้เขาเขียนเองบ้าง

ขั้นสาม – หลังจากที่เขาเริ่มลงมือฝึกฝนด้วยตัวเองแล้ว อย่าลืมให้กำลังใจความมุ่งมุ่นในการเขียนชื่อของเขาด้วย

ขั้นสี่ – ชื่นชมและให้รางวัล

วิธีการที่ 3 ใช้การตัดตัวอักษร

เป็นวิธีการที่สนุกมากในการสอนลูกให้เรียนวิธีเขียนชื่อของเค้า สิ่งที่คุณต้องการก็คือคัทเอาท์ตัวอักษร ซึ่งคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ใช้ cardboard หรือตัดจากปกหนังสือแข็งๆ ก็ได้

ขั้นแรก – นั่งข้างๆ ลูกที่โต๊ะ กระจายตัวอักษรออกไป แต่ให้ชื่อของเค้าวางอยู่ตรงหน้า เตรียมพร้อมอุปกรณ์กระดาษ ปากกา หรือดินสอให้เรียบร้อย

ขั้นสอง – โชว์ตัวอักษรแรกของชื่อเค้าแล้วออกเสียงดังฟังชัด จากนั้นวางมันตรงหน้าเขาบนโต๊ะ

ขั้นสาม – จากนั้นนำตัวอักษรอื่น ค่อยๆ มาผสมรวมกันเป็นชื่อของเค้า และกระตุ้นให้เขาออกเสียงชื่อตัวเองอย่างเสียงดังฟังชัด

ขั้นสี่ – ลองสะกดชื่อของเค้าตามตัวอักษรที่ตัดมา เขียนชื่อของเค้าลงบนกระดาษอาจจะด้วยปากกาไฮไลท์หรือจะทำเป็นรอยประหรือจุดก็ได้ แล้วกระตุ้นให้เขาเขียตามตัวอักษรนั้น

ขั้นห้า – ตบท้ายด้วยการชื่นชมและให้รางวัล

ทิปเสริม

• จากนั้นอาจจะลองมองหาหนังสือหรือตัวการ์ตูนอะไรก็ได้ที่มีชื่อเดียวกับเขา และขณะที่อ่านหนังสือไปด้วยนั้น คุณก็อาจจะชี้ไปที่ตัวอักษรซึ่งเป็นชื่อของเค้า และย้ำว่าเห็นไหมตัวการ์ตูนนี้มีชื่อเหมือนกับเขาเลย และก็กระตุ้นให้เกิดการฝึกฝนการเขียนได้อีก
• คุณอาจจะเสริมทักษะด้านอื่นๆ สอดแทรกลงไปด้วยได้ เช่น การร้องเพลง หรือเล่นเกมที่มีการเรียกชื่อของเด็กด้วยก็ได้
• เราสามารถส่งเสริมลูกให้ชอบการเขียนด้วยการฝึกให้เขานั่งบนโต๊ะ ให้เขาใช้อุปกรณ์ที่มีสีสันหลากหลายเพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่ายและสนุกในการเขียน เช่น ปากกาสี ปากกากลิตเตอร์แวววาว เป็นต้น

ข้อควรจำ

• อย่างทำให้เป็นเรื่องสลักสำคัญมากนัก หากเกิดว่าลูกทำผิดพลาด แต่จงอ่อนโยนแล้วแนะนำสิ่งที่ถูกต้องให้กับเขา
• อย่าให้ทำซ้ำๆ ย้ำๆ บ่อยๆ เพราะอย่างที่เราทราบว่าเด็กเล็กนั้นมีสมาธิจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้น้อย ดังนั้น อย่าให้ใช้เวลาในการฝึกฝนนานเพราะจะทำให้เด็กรู้สึกไม่ดีกับการเขียนไปเลยก็ได้ ดังนั้น ควรใช้เวลาแค่ 5-10 นาทีก็พอ แต่ทำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ