ใครๆ ก็รู้ว่าเมืองไทยมี 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก ร้อนที่สุด!! แหะๆ เรื่องล้อเล่นที่ดูเหมือนจะจริง ดังนั้นหากลูกน้อยจำเป็นต้องมีกิจกรรมกลางแจ้งในฤดูที่แดดไม่ปราณีใครอย่างช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ผิวของลูกน้อยก็ควรได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ เพราะผิวเด็กบอบบางกว่าผู้ใหญ่ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว
เลือกครีมกันแดดให้ลูกอย่างไร
เลือกจากเงื่อนไขสำคัญ 2 ประการ : ปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ และไม่เป็นอันตรายต่อผิวบอบบางของลูก แหม..ฟังดูง่ายแต่เลือกยากใช่ไหมคะ
โดยทั่วไปครีมกันแดดจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
Physical sunscreen
หรือสารสะท้อนรังสี จะกันรังสีเข้าสู้สู่ผิวหนัง ได้แก่ zinc oxide และ titanium dioxide ซึ่งสารเหล่านี้จะไม่ซึมเข้าผิวหนัง เป็นข้อดีคือทำให้แพ้ยาก แต่มีอนุภาคใหญ่จึงทำให้เหนียวเหนอะหนะและทิ้งร่องรอยขาววอกบอกให้รู้ว่าทาครีมกันแดด
Chemical sunscreen
หรือสารกันแดดประเภทออกฤทธิ์ทางเคมี โดยจะรวมตัวกับส่วนประกอบของผิวชั้นนอกสุดเพื่อดูดซับรังสียูวีแล้วกระจายออกมา ซึ่งมีข้อดีคือ ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่อาจเป็นอันตรายต่อผิวบอบบางแพ้ง่ายของลูกน้อย
ดังนั้นเวลาซื้อผลิตภัณฑ์กันแดด คุณแม่ควรพุ่งตรงไปที่ผลิตภัณฑ์ที่เขียนหน้าบรรจุภัณฑ์ว่า สำหรับเด็กโดยเฉพาะ เช่น For Kids, Baby sunscreen ถ้าจะเพิ่มความชัวร์ก็ควรเลือกที่ระบุว่า สูตรอ่อนโยน สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายเลยค่ะ แล้วถ้ากรณีฉุกเฉินหาซื้อไม่ได้ล่ะ?? ผลิตภัณฑ์ใกล้ตัวคุณแม่ที่ใช้สำหรับผิวหน้าหรือผิวบอบบางก็สามารถทดแทนได้ แต่ควรทาบริเวณท้องแขนทิ้งไว้เพื่อทดสอบการแพ้ก่อนนะคะ
ทาครีมกันแดดอย่างไรให้ถูกต้อง
- ทาครีมกันแดดปริมาณที่เหมาะสม ปริมาณที่แนะนำบนใบหน้าคือหนึ่งช้อนชา หรือประมาณเท่าเหรียญสิบบาท
- ทาครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้า รวมถึงใบหู และลำคอ
- อย่าลืมทาครีมกันแดดบริเวณหัวเข่าและหลังเท้า
- หลังจากออกแดดประมาณ 30 นาทีควรทาครีมกันแดดซ้ำอีกหนึ่งครั้งเพื่อการปกป้องสูงสุด
- ทาครีมกันแดดทุกๆ 2 ชั่วโมง หากทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือกิจกรรมทางน้ำ เช่นว่ายน้ำ มีเหงื่อออก หรือมีการเช็ดตัว
กิจกรรมกลางแจ้งกับเด็กๆ อาจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงยาก แต่สำหรับเด็กเล็กแสงแดดอาจเป็นอันตรายและนำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บมากมาย ถ้าไม่จำเป็นก็พยายามเลี่ยงการเผชิญกับแดดเปรี้ยง แต่เลี่ยงไม่ได้ก็ต้องระมัดระวังป้องกันให้ถูกวิธีนะคะ