“โรคไข้ดำแดง” เป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยนัก เนื่องจากผู้ป่วยมักได้รับยาปฏิชีวนะตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม แต่ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าพบเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในสุรินทร์ ป่วยเป็นโรคไข้ดำแดง งานนี้เหล่าคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยวัยซนคงต้องหันมาโฟกัสโรคนี้ให้มากขึ้นแล้วล่ะค่ะ เพราะโรคไข้ดำแดงมักเกิดในเด็กอายุ 2-8 ปี
จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค สถานการณ์ของโรคไข้ดำแดงในปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค.-16 ก.พ. 2560 มีผู้ป่วยแล้ว 243 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดเป็นเด็กช่วงอายุ 1-14 ปี ถึง 224 ราย หรือร้อยละ 92 ส่วนในปี 2559 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 1,527 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเช่นกัน
“โรคไข้ดำแดง”
เป็นโรคติดต่อซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ “สเตรปโตคอคคัสชนิดเอ” ก่อให้เกิดโรคหลายชนิด เช่น คออักเสบ โรคติดเชื้อทางผิวหนัง เป็นต้น โรคไข้ดำแดงมักจะเกิดในเด็กอายุระหว่าง 2-8 ปี อาการของโรคจะเริ่มจากมีอาการไข้ เจ็บคอ มีผื่นแดงตามลําคอ รักแร้ ลําตัว แขน ขา ลักษณะของผื่นเมื่อสัมผัสจะคล้ายกระดาษทราย ใบหน้าแดง ริมฝีปากซีด และอาจมีปื้นขาวที่ลิ้น ซึ่งภายหลังจะลอกออกทําให้ลิ้นมีลักษณะบวมแดง ส่วนการติดต่อมักเกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการหรือผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียก่อโรคอยู่ หรือหายใจเอาละอองฝอยที่ติดเชื้อเข้าทางระบบทางเดินหายใจ
วิธีดูแลตัวเองและลูกน้อยวัยซนเพื่อป้องกันโรคไข้ดำแดง
- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารให้ครบหมวดหมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคไข้ดำแดง
- หากมีความจำเป็นต้องใกล้ชิดผู้ป่วย ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย โดยเฉพาะของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ให้สะอาดหมดจด หรือก่อนและหลังสัมผัสผู้ป่วยหรือของใช้ของผู้ป่วย
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตา แคะจมูกปาก
- หากพบเด็กป่วยควรแยกออกจากเด็กปกติทันที ส่วนเด็กที่ป่วยพ่อแม่ควรให้พักอยู่บ้าน
เพื่อความไม่ประมาท พ่อแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของเจ้าตัวซนอย่างใกล้ชิด รวมถึงทำความสะอาดอุปกรณ์ ของใช้ และของเล่นต่างๆ หากพบอาการผิดปกติควรรีบพาไปพบแพทย์