ฝนตกอากาศชื้น ระวังเด็กป่วย “ไวรัสลงกระเพาะ”

0

ระยะนี้ประเทศไทยมีฝนตกชุก อากาศชื้น ทำให้เชื้อโรคชนิดต่างๆ สามารถแพร่กระจายได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายน้อย ส่งผลให้เจ็บป่วยได้ง่าย ซึ่งโรคที่พบบ่อย คือ “โรคไวรัสลงกระเพาะ” หรือ “โรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ” ซึ่งอันตรายต่อเด็กถึงขั้นเสียชีวิตทีเดียวค่ะ

ข้อมูลจาก นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า…

เชื้อไวรัสที่เป็นต้นเหตุของโรคไวรัสลงกระเพาะมีหลายชนิด แต่ที่พบได้บ่อยในเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ปี คือ เชื้อไวรัสโรตา (Rotavirus) ซึ่งพบได้ถึงร้อยละ 16 ถึง 58 เชื้อโรคชนิดนี้สามารถอยู่ในสภาวะแวดล้อมทั่วไปได้นาน แฝงอยู่กับสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น จาน ชาม บริเวณพื้นที่ไม่สะอาด อาหารที่รับประทานเข้าไป หรือได้รับเชื้อจากผู้ป่วยโดยตรง

rotavirus

หลังจากได้รับเชื้อเด็กจะมีอาการเหมือนไข้หวัด คือ มีไข้ ตัวร้อน น้ำมูกไหล หรือไอร่วมด้วย อาการที่เด่นชัด คือ อาเจียน ตั้งแต่เล็กน้อยถึงขั้นรุนแรง ซึ่งอาจจะมีอาการท้องอืดร่วมด้วย

นอกจากนี้ เด็กจะไม่อยากรับประทานอาหารและมีอาการถ่ายเหลวถ่ายบ่อยตามมา โดยอาการที่กล่าวมานี้ พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถดูแลด้วยการประคับประคองไม่ให้เป็นมากกว่าเดิม ดังนี้

  1. เมื่อมีไข้ ควรเช็ดตัว และให้ยาลดไข้
  2. ถ้าอาเจียน อาจให้ดื่มผงน้ำตาลเกลือแร่ เพื่อรักษาและป้องกันภาวะขาดน้ำ
  3. ให้เด็กดื่มนมและรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและที่สำคัญ

ทั้งนี้ ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ เช่น เด็กไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ปัสสาวะน้อยลง มีอาการซึม งอแง ถ่ายบ่อย อาเจียนบ่อยครั้ง อาจทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรุนแรง ให้รีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วเพราะหากให้น้ำเกลือไม่ทัน อาจจะรุนแรงจนทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าเด็กโต

แม้ปัจจุบันจะมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อทางเดินอาหารจากเชื้อไวรัสโรตาเป็นวัคซีนทางเลือก แต่ความที่มีราคาสูงและไม่สามารถป้องกันครอบคลุมเชื้อโรคได้ทั้งหมด จึงแนะนำว่าให้ป้องกันด้วยการเลี้ยงดูแทน เช่น ให้เจ้าตัวซนรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ หรืออุ่นอาหารให้ร้อนก่อนรับประทาน ล้างมือบ่อยๆ จัดสุขลักษณะภายในบ้านให้สะอาด และหลีกเลี่ยงการพาเด็กน้อยไปในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น

ที่สำคัญหากมีผู้ป่วยโรคไวรัสลงกระเพาะอยู่ภายในบ้านหรืออยู่ห้องเรียนเดียวกัน ควรมีการแยกเด็กป่วยออกมา เพราะเชื้อโรคสามารถปนเปื้อนมากับน้ำมูก น้ำลาย และการใช้ของร่วมกันได้ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *