การเลี้ยงลูกถือเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องให้ความใส่ใจอย่างยิ่ง เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยบ่มเพาะตัวตน นิสัย และบุคลิกภาพ ให้ลูกรักตัวน้อยของคุณในวันนี้ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า ยิ่งเริ่มปลูกฝังอย่างถูกวิธีตั้งแต่ลูกยังเด็ก ก็จะยิ่งทำให้เจ้าตัวซนมีโอกาสเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมทั้งไอคิวและอีคิวได้ค่ะ
“ไอคิว” (IQ) คืออะไรกันแน่?
ความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา การคิด การใช้เหตุผล การคำนวณ การเชื่อมโยง ส่วน “อีคิว” (EQ) คือ ระดับความฉลาดด้านอารมณ์ เป็นความสามารถในการรับรู้และเข้าใจอารมณ์ทั้งของตัวเองและผู้อื่น ตลอดจนสามารถปรับหรือควบคุมได้อย่างเหมาะสมกับสภาพการณ์ คนที่จะประสบความสำเร็จและมีชีวิตที่เป็นสุขนั้น ต้องมีไอคิวที่ดี ควบคู่ไปกับการพัฒนาอีคิวที่ดีด้วย หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งย่อมทำให้การพัฒนาไม่เป็นไปอย่างเต็มศักยภาพ
หลัก 4 ฉลาด โดย พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ สำหรับการฝึกทั้งไอคิวและอีคิวในเด็ก มีดังนี้
- “ฉลาดคิด” ฝึกให้เด็กรู้จักการคิดหลากหลายวิธีและเห็นผลที่ตามมา
- “ฉลาดทำ” พ่อแม่ต้องมอบหมายงานให้เด็กรับผิดชอบ เช่น ทำงานบ้าน เป็นการฝึกให้เด็กรู้จักการวางแผนทำงานให้สำเร็จ ซึ่งเป็นการสร้างความขยัน พากเพียร มีวินัยควบคุมตนเองและเรียนรู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
- “ฉลาดใจ” โดยการโอบกอดลูก เด็กจะมีพลังใจ เข้าใจและรู้วิธีดูแลอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง มีคุณธรรมมองโลกในแง่ดี
- “ฉลาดสัมพันธ์” โดยผ่านกระบวนการเล่น ทั้งเล่นกับเพื่อนหรือพ่อแม่เล่นกับลูก เพื่อให้เด็กรู้กติกา ได้รับความสนุกสนาน จิตใจร่าเริงแจ่มใส เห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี แบ่งปันช่วยเหลือ เข้าใจและรู้วิธีดูแลอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น
ทั้งนี้ พ่อแม่คือบุคคลสําคัญที่ลูกจะลอกเลียนแบบ ทั้งคำพูดและการกระทําของพ่อแม่ จะเป็นตัวถ่ายทอดความคิดและค่านิยมลงสู่ลูกโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้นนอกจากสอนแล้วก็ต้องทำให้ลูกเห็นเป็นแบบอย่างด้วยนะคะ