ขณะนี้สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่กำลังระบาด จึงเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องคอยเฝ้าระวังลูกน้อยวัยซน เนื่องจากในโรงเรียนเป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคดังกล่าวได้ง่าย ไม่อยากให้เจ้าตัวซนนอนซมจากอาการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ก็ต้องรู้จักปกป้องลูกรักจากความเสี่ยงของโรคนี้กันค่ะ
“โรคไข้หวัดใหญ่”
เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่าย โดยติดต่อผ่านทางสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก เป็นต้น จากการสัมผัส การไอ จาม เมื่อคลุกคลีหรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย การแพร่เชื้อโดยการไอจามเป็นฝอยละออง และติดต่อโดยสูดหายใจเข้าไป ซึ่งเด็กเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อได้ง่าย และแพร่กระจายสู่บุคคลในครอบครัวได้ง่าย
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม 2560 มีผู้ป่วย 4,875 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต พบผู้ป่วยมากในกลุ่มเด็กอายุแรกเกิด – 14 ปี
โดยคาดว่าในปี 2560 จะมีผู้ป่วยมากกว่า 300,000 ราย โดยเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม คาดว่า จะมีผู้ป่วยประมาณเดือนละ 13,000 ราย ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ในสถานศึกษาหลายแห่ง
วิธีการป้องกันลูกรักในปลอดภัยจากโรคไข้หวัดใหญ่
- ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูก หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดควรใช้หน้ากากอนามัย
- ล้าง คือ ล้างมือบ่อย ๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันใด ราวบนรถโดยสาร รวมถึงล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังจากเข้าห้องน้ำให้ติดเป็นนิสัย
- เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- หยุด คือ เมื่อป่วย ควรหยุดเรียน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน นับจากวันเริ่มป่วยหรือหลังจากหายเป็นปกติแล้วอย่างน้อย 1 วัน การเจ็บป่วยในเด็กมักมีการแพร่กระจายของโรคได้อย่างรวดเร็วมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะเด็กมีการใกล้ชิดสัมผัส หยอกล้อเล่นกัน การทำความสะอาด ร.ร. ตั้งโต๊ะเรียน ของใช้ ลูกบิด ประตูจึงเป็นสิ่งจำเป็น การหยุดเรียน ช่วยไม่ให้โรคแพร่กระจายมากขึ้น
โรคไข้หวัดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ เอ หรือ บี ความรุนแรงของโรคไม่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความแข็งแรงเฉพาะคน และการป้องกันตนเอง