สอนลูกให้รู้จัก “หน้าที่” ทำอย่างไร?
- เริ่มต้นด้วยการแบ่งหน้าที่ง่ายๆ ให้ลูกได้ทำในบ้าน เช่น ล้างจาน รดน้ำต้นไม้ กรอกน้ำใส่ตู้เย็น
- บอกให้ลูกรู้อย่างชัดเจนว่าอะไรคือหน้าที่ที่ลูกต้องทำ
- เมื่อมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนแล้ว ถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกทำอะไรให้ เช่น ต้องการให้ลูกรดน้ำต้นไม้ การบอกให้ลูกทำจะได้ผลกว่าการใช้คำขอร้อง
- การบอกให้ทำ จะช่วยให้ลูกตระหนักว่า นี่คือหน้าที่ที่เขาต้องทำ ต้องรับผิดชอบ เช่น คุณอาจบอกลูกไปเลยว่า“วันนี้สิ่งที่ลูกต้องทำคือ หนึ่งล้างจาน สองกวาดบ้าน และสามช่วยแม่รดน้ำต้นไม้นะจ๊ะ”
ข้อพึงระวังคือ สิ่งที่บอกนั้นต้องชัดเจน เข้าใจง่าย ใช้คำพูดที่นุ่มนวล ทว่าหนักแน่น!
- อย่ากลัวว่าลูกจะเหนื่อย อย่ากลัวถ้าลูกทำพลาด อย่ากลัวจะเสียเวลา การฝึกให้ลูกรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ ให้ลูกได้ทำงานเพื่อช่วยเหลือตัวเอง ช่วยผู้อื่น ช่วยสังคมจะทำให้เขาเข้มแข็งและยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง
- การบีบบังคับจะทำให้เด็กเกิดแรงต้าน และธรรมชาติของเด็กนั้นมักมีข้อต่อรองเสมอ ดังนั้นวิธีที่ดีก็คือควรให้เด็กมีทางเลือกเพื่อลดแรงต้าน บรรเทาแรงดันก่อนที่ลูกโป่งใบน้อยจะระเบิด
ชื่นชมอย่างไรเมื่อลูกทำหน้าที่ได้ดี
- คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องให้รางวัลเมื่อลูกทำหน้าที่ของเขาเสร็จสิ้น ไม่จำเป็นต้องจ้างวาน ถ้าผลงานของลูกเป็นที่น่าพอใจ ควรชมที่ผลงาน เช่น“ลูกล้างจานได้สะอาดดีมากจ้ะ” ไม่ควรชมในทำนองที่ว่า “คุณแม่ขอบคุณเหลือเกินที่ลูกอุตส่าห์ล้างจานให้”
- หน้าที่คือสิ่งที่ลูกต้องเรียนรู้จะรับผิดชอบ ต้องฝึกให้เขาได้เรียนรู้ว่าทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องทำโดยไม่มีการต่อรองและไม่มีรางวัล แต่สิ่งที่ลูกได้คือ เขาจะตระหนักถึงคุณค่าในตนเอง
- การชื่นชมที่ผลงานจะทำให้เด็กภูมิใจในสิ่งที่เขาทำ และทำให้เขารู้ว่าต้องทำงานอย่างไร จึงจะถูกต้อง ได้ผลดี
ในช่วงแรก ลูกอาจดื้อดึง ต่อรอง ร้องขอความสงสาร เห็นใจ และแข็งข้อ แต่ขอให้คุณพ่อคุณแม่แข็งใจสักนิด อดทนอีกสักหน่อย มั่นใจในการกระทำของเรา อย่ายอมให้ความสงสาร ความเห็นใจในพฤติกรรมทั้งหลายแหล่มาทำให้ใจอ่อน หรือมาทำให้หมดความอดกลั้นนะคะ เพราะความใจอ่อน จะทำให้ลูกของเรากลายเป็นคนที่ไม่มีวินัย และไม่รู้จักหน้าที่ไปตลอดชีวิตได้ค่ะ