อย่าว่าแต่เด็กๆ เลยค่ะ แม้แต่ผู้ใหญ่ในวัยทำงานหากได้งับหลับซัก 20 นาทีในช่วงกลางวันก็จะทำให้สดชื่นสมองทำงานได้ลื่นไหลขึ้น การนอนกลางวันของเด็กๆ ก็เช่นเดียวกันค่ะ หากลูกได้นอนหลับพักผ่อนในช่วงกลางวันเพียงไม่มีชั่วโมงก็สามารถส่งผลดีทั้งพฤติกรรมและการเรียนรู้ของลูกอย่างคาดไม่ถึงเชียวล่ะค่ะ แต่ในกรณีที่ลูกเข้าเรียนแล้วการนอนคงสามารถทำได้แค่ในช่วงอายุหนึ่งเท่านั้น
พฤติกรรมการนอนที่ดีและชั่วโมงการพักผ่อนของเด็กๆ มีดังนี้
- เด็กวัย 3 ปี ที่เข้าเรียนชั้นอนุบาล หรือสถานรับเลี้ยงเด็ก จะนอนทั้งวันประมาณ 12 ชั่วโมงต่อวัน โดยจะมานอนตอนกลางวันประมาณ 1 ชั่วโมง
- เด็กอายุ 3 – 6 ปี จะนอนประมาณ 8-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนและกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน
- เด็กอายุ 5 – 6 ปี ส่วนใหญ่ที่ไม่นอนกลางวันเมื่ออยู่ที่โรงเรียน เพราะด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนที่พยายามปรับให้เด็ก รู้จักปรับตัวให้เหมาะสมกับกิจกรรมการเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาต่อไป ซึ่งในช่วงวัยนี้หากลูกนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอในช่วงกลางคืนแล้ว ก็สามารถจะลุยกิจกรรมเบาๆ ช่วงกลางวันได้ตลอดวันค่ะ
สำหรับในเด็กช่วงวัย 3 – 4 ขวบที่ไม่ยอมนอนกลางวัน อาจจะมีสาเหตุจากสิ่งเหล่านี้
- นอนดึก ตื่นสาย กลางวันเลยไม่ง่วง
- ติดของเล่น ผ้าห่ม หรือหมอน ซึ่งคุณแม่อาจจะต้องขออนุญาตคุณครูให้น้องเอาไปในช่วงแรกๆ เมื่อลูกรู้สึกอายเพื่อนๆ ต่อไปก็จะเลิกติดเองค่ะ
- มีสิ่งกระตุ้นทำให้ไม่อยากนอน เช่น เปิดเพลง เปิดทีวี มีเสียงพูดคุย ดังนั้นเราควรจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกันการนอนของเด็ก
ผลของการไม่นอนกลางวันของเด็กวัย 3 – 4 ขวบ
- อิดโรย อ่อนเพลีย ไม่แจ่มใส
- ซึม เหม่อลอย
- หงุดหงิด งอแง
- ไม่ให้ความร่วมมือ
- ไม่อยากทำกิจกรรม
- หลับในช่วงเย็น ตื่นช่วงกลางคืน ทำให้นอนดึก ตื่นสาย ปลุกยาก เมื่อต้องตื่นเช้ามาโรงเรียนก็จะงอแง เป็นวัฏจักร
สรุปว่าการนอนของลูกน้อยในวัยเริ่มเข้าอนุบาล ช่วง 3- 4 ขวบ มีความสำคัญต่อลูกอย่างมาก ถ้าไม่อยากต้องสู้รบกับลูกทุกวัน คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดสรรเวลาการนอนของลูกอย่างถูกต้องเหมาะสมนะคะ