เราต่างทราบกันดีว่า “อาหารเช้า” เป็นมื้อสำคัญ ที่ทุกคนควรรับประทานในทุกวัน การงดกินอาหารมื้อเช้า อาจทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย นำไปสู่ภาวะขาดสารอาหารและอาจทำให้เจ็บป่วยได้ ยิ่งเด็กวัยกำลังโตด้วยแล้วจำเป็นต้องกินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อค่ะ
ในเด็กวัยเรียนแม้จะมีขนาดของกระเพาะอาหารเล็กกว่าผู้ใหญ่ แต่กลับมีความต้องการพลังงานและสารอาหารต่อหน่วยน้ำหนักมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นวัยที่ยังมีการเจริญเติบโต จึงจำเป็นต้องกินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อ โดยมื้อหลัก ๆ ที่ห้ามขาด ได้แก่ มื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น
นอกจากนี้ช่วงเวลาที่ลูกนอนหลับประมาณ 8-12 ชั่วโมงในแต่ละวันนั้น การทำงานของระบบต่าง ๆ ของร่างกายก็ยังดำเนินไปตลอดเวลา ทำให้ปริมาณสารอาหารต่าง ๆ โดยเฉพาะระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลง จึงจำเป็นต้องกินอาหารเพื่อเพิ่มระดับสารอาหารในร่างกายให้อยู่ในสภาพปกติสำหรับการทำกิจกรรมต่อไป
การไม่กินอาหารเช้าในเด็กวัยเรียน จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้ในช่วงสายของวันเด็กจะรู้สึกหิว กระสับกระส่าย ไม่มีสมาธิในการเรียน ขาดความฉับไวในการคิดคำนวณหรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เกิดการผิดพลาดได้มากกว่า และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจะด้อยกว่าเด็กที่กินอาหารเช้า เนื่องจากสมองของคนเราต้องการน้ำตาลกลูโคสเพื่อไปหล่อเลี้ยง นอกจากนี้เด็กจะไม่มีกำลังสำหรับการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายอีกด้วย อาหารเช้าจึงเป็นมื้อที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเด็กวัยเรียนและวัยรุ่น
อาหารเช้าที่เหมาะสมควรประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อคงสภาวะระดับน้ำตาลในเลือดของเด็กให้สูงอยู่เป็นเวลาที่ยาวนาน จะทำให้เด็กมีความสามารถในการเรียนรู้และประกอบกิจกรรม ที่ต้องใช้กำลังงานได้ดีขึ้น
ในส่วนของเมนูอาหารเช้าที่เหมาะสมกับเด็กวัยซน เช่น ข้าวต้มหมูใส่ใบตำลึง, ข้าวไข่เจียวใส่มะเขือเทศ, แซนวิชขนมปังโฮลวีตแฮมชีส โดยอาจเสิร์ฟพร้อมนมสดหรือน้ำผลไม้เพื่อเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กอย่าง แคลเซียม และวิตามินต่างๆ
เพื่อป้องกันปัญหาเจ้าตัวซนงอแงไม่อยากหม่ำอาหารเช้า นอกจากคุณแม่จะต้องเลือกเมนูที่มีประโยชน์ ให้แคลอรี่เพียงพอสำหรับเด็กที่จะเผาผลาญพลังงานในแต่ละวันแล้ว ควรใส่ใจในเรื่องรสชาติด้วยนะคะ