หลังจากใช้ชีวิตภายใต้การเลี้ยงดูของพ่อ แม่ ผู้ปกครองภายในบ้านมาเป็นปี ๆ พอทารกน้อยเติบโตขึ้นเป็นเด็กวัยซน ก็ถึงเวลาที่จะต้องออกไปเรียนรู้โลกกว้างท่ามกลางสิ่งที่ไม่คุ้นเคยใหม่ ๆ ที่โรงเรียน และเพื่อให้เจ้าตัวซนใช้ชีวิตในโรงเรียนอนุบาลอย่างมีความสุข สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ คือ การเตรียมความพร้อมให้ลูก
คู่มือสำหรับพ่อแม่ เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอน เด็กวัยอนุบาล 3-6 ปี โดย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงการฝึกลูกให้ใช้ชีวิตในโรงเรียนอนุบาล ว่า เด็กวัย 3-6 ปี จะใช้เวลาในโรงเรียนอนุบาลเพิ่มขึ้น จึงมีพัฒนาการที่สำคัญหลายด้านที่พ่อแม่ควรส่งเสริมให้เด็กเกิดความพร้อม ดังนี้
1. ช่วยเหลือตนเอง
การช่วยเหลือตนเองได้เป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกที่เป็นรากฐานของการก้าวออกไปในสังคมอย่างมั่นใจ พ่อแม่ควรฝึกให้เด็กช่วยเหลือตนเองทุกด้านให้มากที่สุด เช่น กินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัว เข้าห้องน้ำ ช่วยงานบ้าน การช่วยเหลือตนเองนี้นอกจากจะทำให้เด็กต้องคิด ตัดสินใจ และลงมือทำแล้ว ยังจะทำให้เด็กภูมิใจในตนเองเมื่อเขาทำได้ ระยะแรกพ่อแม่ควรสอนหรือจับมือทำ เมื่อเด็กทำได้บ้างก็ควรปล่อยให้เด็กทำด้วยตัวเองมากขึ้น ชมและให้กำลังใจเป็นระยะ ให้ทำบ่อย ๆ จนเกิดทักษะ คล่องแคล่ว
2. คุมอารมณ์ได้
ฝึกให้เด็กรู้จักอดกลั้น รอคอย และแสดงอารมณ์อย่างเหมาะสม เพื่ออยู่รวมกับคนอื่นได้ง่าย โดยมีพ่อแม่เป็นต้นแบบของคนที่คุมอารมณ์ตนเองได้ ไม่ยั่วยุให้อารมณ์เสียบ่อย ๆ ฝึกให้เด็กรู้จักอารมณ์ของตนเอง และจัดการอารมณ์อย่างเหมาะสม เช่น ถ้าเด็กโกรธ ร้องอาวะวาด ให้ฝึกโดยแยกเด็กออกมาในที่สงบ เพิกเฉยไม่ให้ความสนใจ จนกว่าเด็กจะสงบลงได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ควรฝึกให้เด็กรู้จักอดทนทำในสิ่งที่ควรทำ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เด็กไม่ชอบ เช่น ช่วยเหลือตนเอง ช่วยทำงานบ้าน เก็บของเล่น มากกว่าส่งเสริมให้ทำในสิ่งที่ชอบหรืออยากจะทำเท่านั้น
3. ด้านสติปัญญา
เปิดโอกาสให้เด็กได้เห็นและมีประสบการณ์ตรงเรียนรู้จากสภาพ แวดล้อม พ่อ แม่ควรหมั่นพูดคุย ตั้งคำถามง่าย ๆ ให้เด็กคิดหาคำตอบ และให้คำแนะนำแก่เด็ก พาเด็กออกไปเที่ยวนอกบ้านเพื่อให้หัดสังเกตสิ่งรอบตัว หรือเล่านิทานให้ฟังบ่อย ๆ ฝึกสรุปสิ่งที่เรียนรู้ร่วมกับเด็ก ฝึกให้เด็กจดจำ ชื่อ นามสกุลตัวเอง ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ นอกจากนี้ ควรฝึกเด็กให้มีทักษะการแก้ปัญหาด้วยตนเองหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
4. ด้านสังคม
ต้องเตรียมเด็กให้พร้อมในด้านต่อไปนี้
1) รู้จักเคารพสิทธิผู้อื่น รู้ลำดับคนในสังคมที่ต้องยอมรับ เช่น ผู้ใหญ่ พี่ เป็นต้น ฝึกให้ใช้คำพูด เช่น ขอโทษ ขอบคุณ เคาะประตูก่อนเข้าห้อง ขออนุญาตก่อนหยิบของคนอื่นไปใช้
2) รู้จักการรอคอย
3) รู้จักการให้และการรับที่เหมาะสม
4) ส่งเสริมให้แสดงพฤติกรรมที่ตรงกับเพศของตัวเด็กเองที่ถูกต้องและเหมาะสม
5) ฝึกให้เด็กรู้จักการเล่นตามกติกา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้จักการเล่นได้หลากหลาย ซึ่งฝึกได้โดยเปิดโอกาสให้เล่นกับเพื่อน โดยเฉพาะการออกกำลังกายกลางแจ้ง ซึ่งมีผลดีต่อทั้งการเจริญเติบโต อารมณ์ และการเข้าสังคม
5. ด้านร่างกาย เน้นการออกกำลังกาย ส่งเสริมให้เด็กเล่นอิสระกลางแจ้ง เช่น วิ่งเล่นในสนาม ปีนป่ายเครื่องเล่น ถีบจักรยาน และฝึกการวาดภาพหรือรูปทรงต่าง ๆ
แม้จะฝึกฝนและเตรียมความพร้อมให้ลูกเป็นอย่างดี แต่ในสถานการณ์จริงก็อาจมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการปรับตัวของเด็ก พ่อแม่ควรหมั่นสังเกตและพูดคุยกับลูก เพื่อให้ชีวิตในรั้วโรงเรียนของเจ้าตัวซนเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข