สุขภาพของลูกเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องใส่ใจอยู่เสมอ เพราะเรื่องเล็กน้อยที่มองข้ามอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ หากเจ้าตัวซนมีอาการเซื่องซึม เฉื่อยชา เรียนหนังสือไม่ทันเพื่อน เติบโตช้า เจ็บป่วยง่าย เสี่ยงต่อการเป็นโรคติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย และรุนแรงกว่าเด็กปกติ เหล่านี้คือผลเสียอันเกิดจากภาวะโลหิตจาง
“ภาวะโลหิตจาง”
ภาวะที่ร่างกายมีจำนวนเม็ดเลือดแดงน้อย มีความเข้มข้นของค่าฮีโมโกลบินต่ำกว่าเกณฑ์ สาเหตุส่วนใหญ่ที่พบในเด็กวัยเรียนเกิดจากได้รับธาตุเหล็กจากอาหารไม่เพียงพอ เป็นโรคพยาธิปากขอ หรือมีการเสียเลือดอย่างเรื้อรังจากการมีประจำเดือน เป็นต้น
ข้อมูลจากคู่มือแนวทางการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคเด็กวัยเรียนและเยาวชน โดย กรมอนามัย ได้กล่าวถึงการป้องกัน “ภาวะโลหิตจาง” สรุปความได้ดังนี้
- ให้ลูกรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์ต่างๆ เครื่องในสัตว์ โดยเฉพาะตับ เลือด เป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 มื้อ
- ให้ลูกรับประทานยาเม็ดธาตุเหล็ก (ยกเว้นเด็กที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย) ทั้งนี้ หากรับประทานยาเม็ดธาตุเหล็ก พร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที จะลดอาการคลื่นไส้มวนท้อง แต่การดูดซึมธาตุเหล็กจะได้น้อยกว่ากินขณะที่ท้องว่าง
- ควรให้ลูกรับประทานยาเม็ดเสริมธาตุเหล็ก พร้อมอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผัดสด ฝรั่ง มะละกอ กล้วย ส้ม เป็นต้น เพราะวิตามินซีจะช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกาย
- ดูแลอย่าให้เจ้าตัวซนรับประทานยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กพร้อมอาหารบางชนิด เช่น น้ำชา กาแฟ นม เพราะอาหารดังกล่าวจะไปยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกาย
- ดูแลให้ลูกสวมรองเท้าทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันโรคพยาธิปากขอ
การรับประทานยาเม็ดธาตุเหล็กแล้วอุจจาระจะมีสีดำ ถือเป็นอาการปกติ พ่อแม่ผู้ปกครองควรบอกให้เจ้าตัวซนเข้าใจด้วยนะคะ