“เสียงหัวเราะ เป็นเครื่องแสดงถึงความสุขทั้งกายและใจ…
สิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกน้อยมีความสุขคือ การมีร่างกายที่แข็งแรง และสมองมีการพัฒนาการสมวัย เมื่อลูกได้รับอาหารดีมีคุณค่าทางโภชนาการ ก็จะมีร่างกายแข็งแรงและส่งผลให้เกิดความรู้สึกสบายใจ อารมณ์ดี และมีความสุข ซึ่งสังเกตความสุขจากภายในได้จากเสียงหัวเราะนั่นเองค่ะ
ข้อดีของการหัวเราะ
การหัวเราะเป็นการส่งเสริมพัฒนาการที่ดีมาก ทั้งทางด้านอารมณ์ สังคม และร่างกาย เพราะการหัวเราะส่งผลแบบนี้
- ช่วยบริหารปอด
- ทำให้หัวใจแข็งแรง ส่งผลทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น
- เมื่อเด็กหัวเราะ ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมาที่เรียกว่า สารเอนโดฟิน ทำให้เด็กสดชื่น ร่าเริง แจ่มใส อารมณ์ดี รู้สึกดี รู้จักสื่ออารมณ์ในทางบวก
- ส่งผลให้มองโลกในแง่ดี คิดดีทำดี
- ช่วยฝึกสมาธิด้วย
ในทางตรงข้ามถ้าเด็กไม่หัวเราะหรือไม่มีอารมณ์ขันเลย เด็กจะมีใบหน้าอมทุกข์ เครียด ไม่มีความสุข มองโลกในแง่ร้าย ไม่ไว้ใจใคร พัฒนาการช้า โตขึ้นจะขาดความเชื่อมั่นในตนเอง และมีบุคลิกที่ไม่ดี
ทำอย่างไรให้ลูกหัวเราะ
การส่งเสริมให้เด็กหัวเราะมีวิธีการที่แตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงอายุ
- เด็กแรกเกิด-1 ขวบ การส่งเสริมให้หัวเราะมีความสำคัญที่สุดเพราะวัยนี้สมองจะเจริญเติบโตมากที่สุด ถ้าพ่อแม่ช่วยส่งเสริมให้ลูกหัวเราะอย่างเพียงพอเด็กจะอารมณ์ดี เห็นทุกอย่างรอบตัวสนุกสนานน่าเรียนรู้ เมื่อโตขึ้นจะมีความพร้อมเผชิญความท้าทายต่าง ๆ ในชีวิต
- สำหรับเด็กวัยเตาะแตะ 1-3 ขวบ เป็นช่วงที่กำลังหัดใช้มือใช้ขาและหัดพูด เด็กจะพอใจและมีความสุขกับการทำอะไรแปลก ๆ เช่น การเล่นจ๊ะเอ๋ การเป่าท้องเด็กให้มีเสียง การโยนลูกบอลแล้วพ่อแม่ส่งเสียงไปด้วยเมื่อลูกบอลตกลงพื้น การชวนลูกร้องเพลงและเต้นตามเสียงเพลง การให้เด็กขี่คอหรือเมื่อเล่านิทานให้ฟังจะทำเสียงตัวละครให้แปลก ๆ แตกต่างกัน เป็นต้น
- ลูกอยู่ในวัย 3-6 ขวบ ซึ่งเป็นวัยเรียนรู้เรื่องภาษา และเรียนรู้ด้วยวิธีการอื่น ๆ มากขึ้นวิธีการเล่นและสร้างเสียงหัวเราะซับซ้อนมากขึ้น วัยนี้เรียกว่าวัยซนคุณพ่อคุณแม่ต้องเน้นการสร้างเสียงหัวเราะและการกระตุ้นพัฒนาการด้านอื่น ๆ ไปพร้อมกัน เช่น ชวนกันวิ่งไล่จับให้ร่างกายได้เหงื่อ การวิ่งแข่ง การโยนบอลรับ-ส่งกัน การวาดภาพระบายสีแล้วเอาภาพมาคุยกัน เพราะนอกจากจะฝึกกล้ามเนื้อแล้ว ยังส่งเสริมการใช้จินตนาการด้วย” ดร.จิตรากล่าว
มาเริ่มต้นเป็นครอบครัวอารมณ์ดี เพื่อพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยกันเถอะค่ะ