ขึ้นชื่อว่า… วัยซน ย่อมสรรหาสารพัดสิ่งรอบกายมาเล่น จนอาจพบกับสารพิษจากสารเคมีอันตรายได้ เพราะสารเคมีไม่ใช่สิ่งไกลตัวอีกต่อไปในชีวิตสมัยนี้ จะเห็นได้ว่าสารเคมีส่วนหนึ่งถูกใช้เป็นส่วนประกอบหลักของข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อต่างๆ ที่ทุกบ้านจะต้องมี ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับสารพิษตกค้างหรือสารเคมีรอบตัวนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาค่ะ คุณพ่อคุณแม่ควรเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้ ดังนี้
- ลูกกลืน/ กินสารเคมี
เมื่อลูกกลืนสารพิษเข้าไป สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เอาทุกอย่างที่อยู่ในปากลูกออกให้หมด ในกรณีที่ลูกหมดสติ ไม่สามารถกลืนอะไรได้ ให้ดื่มน้ำประมาณ 2 ออนซ์ จากนั้นนำส่งโรงพยาบาล อย่าพยามยามล้างสารพิษเองด้วยการให้ลูกกินไข่ดิบ น้ำเกลือ มัสตาร์ด น้ำส้ม น้ำมะนาว หรือน้ำผลไม้ใดๆ เช่นเดียวกับการให้ทานยาต้านพิษ และอย่าพยายามทำให้ลูกอาเจียนออกมาโดยการล้วงคอด้วยนิ้วหรือวัตถุใดๆ เพราะวิธีดังกล่าวนั้นเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้ที่ได้รับสารพิษ
- สารเคมีเข้าตาลูก
อันดับแรกคือเอาวัตถุแปลกปลอมทุกชนิดที่อยู่ในดวงตาลูกออกก่อน หลังจากนั้นล้างตาด้วยน้ำอุ่นประมาณ 10 นาที โดยใส่น้ำอุ่นในภาชนะแก้วที่สะอาด วางแก้วเหนือตา ค่อยๆ เทน้ำให้ไหลผ่านตา อย่าราดน้ำลงโดยตรงบนดวงตา จากนั้นนำส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้น อย่าใช้ยาหยอดตาใดๆ นอกจากจะได้รับการอนุญาตจากหมอ
- ลูกสัมผัสสารเคมี
ให้ถอดเสื้อผ้าบริเวณที่โดนสารเคมีออกก่อนอันดับแรก ล้างทำความสะอาดผิวหนังบริเวณนั้นด้วยน้ำสะอาด จากนั้นทำความสะอาดผิวหนังด้วยสบู่กับน้ำอุ่น อย่าทายาใดๆ ถ้าคุณไม่แน่ใจเพราะอาจจะทำให้พิษนั้นอันตรายยิ่งขึ้น จากนั้นรีบนำลูกส่งโรงพยาบาล
- ลูกสูดสารเคมี
ทันทีที่ทราบว่าลูกได้รับสารเคมีเข้าในร่างกายด้วยการหายใจเข้าไป ให้รีบพาลูกออกจากบริเวณที่ได้รับสารพิษมายังที่ที่มีอากาศโล่งบริสุทธิ์ ถ้าอยู่ในบ้านให้เปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเท ให้ลูกหายใจได้เต็มที่
สิ่งสำคัญที่สุดในทุกรณี คือคุณพ่อคุณแม่ต้องมีสติ อย่าตกใจเพราะยิ่งจะทำให้สถานการณ์แย่ไปกว่าเดิมหลัง จากตั้งสติได้แล้ว ให้รีบปฐมพยาบาล เรียกรถพยาบาล หรือรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลค่ะ