ลูกโดนแกล้ง… ไม่อยากไปโรงเรียน

0

การใช้ชีวิตในโรงเรียนสำหรับเด็กๆ นั้น  นอกเหนือจากจุดประสงค์เพื่อการศึกษาหาความรู้แล้ว  อีกทางหนึ่งก็ยังเป็นการเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิต  ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อม  และรู้จักเอาตัวรอดในสังคม

ดังนั้นโรงเรียนจึงเปรียบเสมือนเป็นเมืองจำลองสังคมจริงในชีวิตที่ด็กจะต้องเติบโตและพบเจอเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า  แน่นอนว่าในสังคมหนึ่งยิ่มประกอบด้วยทั้งคนดีและคนไม่ดี  คุณพ่อคุณแม่คงต้องทำใจยอมรับในข้อนี้  และตระหนักว่าเราไม่สามารถปกป้องลูกไปได้ตลอด  การโวยวายหาเด็กหรือผู้ปกครองที่ทำไม่ถูกใจ  หรือการต่อว่าโรงเรียนไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา  หรือสอนให้ลูกรู้จักแก้ปัญหาใดๆ  เลย  ดังนั้นเมื่อลูกต้องไปโรงเรียน  คุณควรคอยสังเกตและช่วยเหลือลูกอยู่ห่างๆ ค่ะ

Sad Student

รู้ได้อย่างไรเมื่อลูกถูกรังแก

  • สังเกตเห็นพฤติกรรรมบางอย่างของลูกที่เปลี่ยนไป เช่น ลูกบ่นไม่อยากไปโรงเรียน เงียบผิดปกติ
  • บางรายอาจสร้างเรื่องร้ายแรงที่โรงเรียนเพื่อขู่พ่อแม่ เช่น  ครูจับมัดมือมัดเท้า  ไม่ให้กินข้าว  เพื่อจูงใจให้พ่อแม่เห็นว่าโรงเรียนอันตราย
  • สังเกตเห็นรอยเขียวช้ำตามตัวของลูก อาการบาดเจ็บทางร่างกายแสดงให้เห็นได้ชัดเจนแต่ความเครียดและความบอบช้ำทางจิตใจคุณไม่มีทางจะรู้ได้เลย
  • หากคุณรู้สึกว่าลูกอาจเจอบางอย่างที่ว่านั้นภายในโรงเรียน ให้ลองหาทางคุยกับลูกด้วยวิธีที่กลมกลืนและไม่ทำให้ลูกรู้สึกแย่ รวมทั้งคุยกับครูและสังเกตพฤติกรรมของลูกให้ดี ที่สำคัญเมื่อคุณรู้แล้วว่าลูกโดนรังแกจากเพื่อนที่โรงเรียน อย่าแสดงความรู้สึกในด้านลบให้ลูกเห็นเพราะเด็กๆ จะกลัวและอายเมื่อรู้ว่าเขาทำให้พ่อแม่ผิดหวัง

ทำอย่างไรเมื่อลูกถูกรังแก?

เมื่อคุณรู้แน่ชัดแล้วว่าลูกโดนกลุ่มเพื่อนที่โรงเรียนรังแก

  • อันดับแรกที่คุณต้องทำคือคุยกับลูกก่อน ให้กำลังใจ และสร้างความมั่นใจให้กับลูกอีกครั้ง
  • ถ้าได้เล็งเห็นแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น คุณครูควรจะต้องรับรู้และมีส่วนรับผิดชอบ คุณควรเข้าไปคุยกับคุณครูให้ช่วยดูแล หรือช่วยให้การรังแกนั้นเกิดขึ้นน้อยลง

ที่สำคัญคือ คุณต้องสอนลูกให้รู้จักระวังตัว ดังนี้…

  • หาเพื่อนสนิทอย่างน้อยหนึ่งคน

การมีเพื่อนแม้จะไม่ใช่กลุ่มใหญ่แต่อย่างน้อยๆ เวลาที่เกิดอะไรขึ้นกับลูกนั้น เพื่อนอีกคนสามารถที่จะวิ่งไปบอกคุณครูได้ พยายามให้ลูกหลีกเลี่ยงอยู่คนเดียวในที่ที่อันตรายจะเสี่ยงต่อการโดนรังแก เช่น ในห้องน้ำ

  • อย่าแสดงความโกรธหรือโต้อตอบ

ความสนุกของเด็กที่ชอบรังแกคนอื่นอยู่ที่การที่ได้เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นโกรธหรืออาย เพราะฉะนั้นเมื่อใดก็ตามที่ลูกคุณแสดงอารมณ์ในด้านลบต่อการกระทำของอีกฝ่ายออกมา เท่ากับว่าเป็นการกระตุ้นให้เขาได้ใจและทำซ้ำแล้วซ้ำอีก สอนลูกให้นิ่งและควบคุมอารมณ์ไว้ สิ่งสำคัญคือ ความกล้าหาญ แล้วเดินจากไป และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

  • บอกให้คนอื่นได้รู้

เมื่อสถานการณ์เข้าขั้นย่ำแย่เกินกว่าที่จะรับมือไหว สิ่งสำคัญที่ควรจะทำคือการบอกให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้ เช่น   ครู ผู้ใหญ่ในโรงเรียน หรือเพื่อนสนิท แม้อาจจะไม่ได้รับการช่วยเหลือทั้งหมด แต่อย่างน้อยๆ ถ้าลูกทำอย่างนั้นก็น่าจะช่วยให้สบายใจขึ้น

เหนือสิ่งอื่นใด  เมื่อลูกต้องประสบกับสิ่งเหล่านี้  สิ่งที่ดีที่สุด คือ คุณต้องพูดคุยกับลูกในเชิงบวก  ทั้งเกี่ยวกับเพื่อน  คุณครู  และโรงเรียน เพื่อให้ลูกไม่หวาดกลัว แล้วหมดศรัทธากับการไปโรงเรียน  คุณมีหน้าที่สร้างขวัญกำลังใจให้ลูกพร้อมเผชิญกับโลกกข้างนอกบ้านค่ะ

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *