แม้ว่าวัคซีนจะไม่ใช่ยารักษาโรค แต่ก็เป็นเครื่องป้องกันที่ช่วยให้เด็กๆ ปลอดภัยจากโรคร้าย ฉะนั้นโรคใดที่สามารถฉีดวัคซีนให้เจ้าตัวซนได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรมองข้ามนะคะ ล่าสุดมีข่าวดีสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกสาวที่อยู่ชั้น ป.5 ค่ะ เพราะสามารถพาลูกไปรับการฉีดวัคซีนเอชพีวี ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ฟรี!!
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในหญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม โดยข้อมูลปี 2553-2555 ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่าอุบัติการณ์มะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยอยู่ที่ 14.4 ต่อแสนประชากรหญิง หรือ 6,426 รายต่อปี ทั้งยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 ในหญิงไทย
สาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อเอชพีวี หรือ Human Papilloma Virus ซึ่งติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ ทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณปากมดลูกเรื้อรัง และเซลล์บริเวณปากมดลูกเจริญผิดปกติ โดยเฉพาะในสายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยสูงถึงร้อยละ 70 การให้วัคซีนเอชพีวีในเด็ก ซึ่งปกติเป็นวัยที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือ วัคซีนเอชพีวี จะฉีด 2 เข็มห่างกัน 6 เดือน ในเด็กหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 แสนคนทั่วประเทศ โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนในเดือนสิงหาคม 2560 นี้ ส่วนข้อกังวลที่ว่าวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ น่าจะดีกว่าชนิด 2 สายพันธุ์ นั้น ขอให้มั่นใจว่า วัคซีนทั้งสองชนิดให้ผลในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกไม่แตกต่างกัน และสามารถใช้ทดแทนกันได้
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือ เอชพีวี จะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่มีการตรวจอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน รวมถึงการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งวัคซีนดังกล่าวผ่านการศึกษาความปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มทุน มาแล้วอย่างรอบคอบ
โดยเด็กผู้หญิงที่อายุอยู่ในช่วงตั้งแต่ 9-13 ปี หรือที่ทางกระทรวงสาธารณสุขแนะนำก็คือเด็กผู้หญิงที่เรียนอยู่ชั้นประถม 5 สามารถรับการฉีดวัคซีนเอชพีวีเข็มแรกได้แล้ว โดยในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถพาบุตรหลานไปฉีด วัคซีนเอชพีวี ปี 2560 ตามโรงพยาบาลทั่วประเทศได้ฟรีค่ะ
หากไม่แน่ใจว่าจะพาเด็กๆ ไปรับวัคซีนเอชพีวีได้ที่โรงพยาบาลใดบ้าง สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร 1422 นะคะ