จะรู้ได้ยังไงว่าลูกเราถนัดหรือเก่งทางด้านไหน?
เชื่อว่าเป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่ของเจ้าตัวซนหลายคนคงอยากรู้แน่ ๆ ค่ะ เพราะหากเรารู้ว่าลูกชอบและถนัดด้านไหน จะได้คอยเป็นผู้ช่วยให้เขาค้นหาความชอบ ความถนัดของตัวเองให้ได้เร็วที่สุด รวมถึงช่วยส่งเสริมศักยภาพด้านนั้น ๆ ได้เต็มที่
เทคนิคสังเกตความชอบและความถนัดของลูก
สังเกตความถนัดของลูกจากผลการเรียนวิชาต่าง ๆ
หากลูกทำคะแนนได้โดดเด่นในวิชานั้น ๆ ก็มีแนวโน้มว่าลูกจะชอบและถนัดวิชาดังกล่าว แต่ทั้งนี้ผลการเรียนอาจจะยังไม่ระบุได้ชัดเจน โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ๆ ที่มักได้คะแนนแต่ละวิชาใกล้เคียงกัน พ่อแม่จึงต้องเอาใจใส่ คอยพูดคุยสอบถาม หรือสังเกตเวลาลูกทำการบ้าน ทำแบบฝึกหัดต่าง ๆ สังเกตง่าย ๆ ว่าถ้าเป็นวิชาที่ชอบลูกมักจะเลือกมาทำก่อนค่ะ
ความถนัดที่สามารถเห็นได้เร็วที่สุดตั้งแต่เด็กอายุยังน้อย
ได้แก่ ด้านภาษา ดนตรี คณิตศาสตร์ ดูว่าลูกทำอะไรได้ดีกว่าเด็กในวัยเดียวกัน สิ่งแวดล้อมเดียวกัน และเมื่อทราบแล้วว่าลูกชอบอะไร พยายามส่งเสริมให้ลูกได้เร็วที่สุด ทุ่มเทเวลาให้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ต้องไม่มากจนเป็นการยัดเยียด ซึ่งอาจส่งผลตรงข้ามคือทำให้เจ้าตัวซนเกิดการต่อต้าน ไม่อยากเรียนหรือฝึกฝนทักษะนั้น ๆ แทน
เมื่อทราบถึงความถนัดของลูกแล้วก็ควรส่งเสริม
โดยการหาครูที่ดี สถานศึกษาที่ดี แต่ก็ไม่ควรหยุดนิ่ง อยู่กับความถนัดนั้นเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อเวลาผ่านไป เด็กอาจจะค้นพบถึงศักยภาพใหม่ ๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาเพิ่มอีกก็ได้ พ่อแม่จึงควรใส่ใจลูกรักอย่างใกล้ชิด รับฟังทุกความคิดเห็นของเขา รวมถึงต้องเปิดใจ ส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ ให้ครบ ครอบคลุมทุกด้านให้มากที่สุด
เด็กที่เบื่อง่ายอาจเป็นเพราะว่าพ่อแม่ตามใจลูกมากเกินไป
หรือไม่ค่อยให้ลูกทำงานบ้าน จึงทำให้เด็กไม่มีระเบียบวินัย เลยส่งผลให้ทำงานไม่เสร็จสักอย่าง ดังนั้น ควรฝึกนิสัยให้ลูกมีหน้าที่รับผิดชอบงานให้เสร็จเป็นอย่าง ๆ ไป เช่น งานบ้าน เก็บเตียงให้เป็นระเบียบ หากเล่นของเล่นก็ควรจะให้เล่นทีละชิ้น ไม่ควรให้เล่นเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายชิ้น เพราะจะทำให้พ่อแม่ไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้ว ลูกชอบทำอะไร
ทั้งนี้ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังประเมินความถนัดของลูกไม่ได้ ก็สามารถพาลูกไปสมัครทดสอบความถนัด หรือแววอัจฉริยะของลูกจากผู้เชี่ยวชาญตามสถาบันต่าง ๆ ที่เปิดให้บริการได้ค่ะ
