เสริม 4 พฤติกรรมสุขภาพ เพื่อลูกหลานแข็งแรงห่างไกลโรค

0

เด็กและเยาวชนนับเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศ การที่จะพัฒนาประเทศให้มีความเจริญยั่งยืน จำเป็นต้องพัฒนาเด็กให้มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขภาพอนามัย ซึ่งครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพบุตรหลานให้เติบโตได้อย่างมีคุณภาพ มีสุขภาพแข็งแรงห่างไกลโรค

จากรายงานข้อมูลภาวะโภชนาการของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 พบเด็กอายุ 6-14 ปีมีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 13.0 และเด็กอายุ 15-18 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 16.9 นอกจากนี้ จากข้อมูลในปี 2565 ยังพบว่า เด็กและเยาวชน อายุ 5 -17 ปี มีกิจกรรมทางกายเพียงพอลดลง เหลือเพียงร้อยละ 16.1 รวมทั้งมีพฤติกรรมเนือยนิ่งเพิ่มสูงขึ้น 15.16 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก และอาจนำไปสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน

การส่งเสริมสุขภาพบุตรหลานให้เติบโตได้อย่างมีคุณภาพ ควรเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ โดยอาศัยครอบครัวในการสร้างวินัยเชิงบวกด้านสุขภาพ ปลูกฝังให้เด็กเห็นความสำคัญของสุขภาพ ให้เข้าถึง เข้าใจข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้อง และสามารถตัดสินใจดูแลสุขภาพตนเองให้ได้อย่างเหมาะสม นำไปสู่การมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย สติปัญญา และจิตใจ ที่สมบูรณ์แข็งแรง มีความพร้อมในการเรียนรู้และส่งผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ

พฤติกรรมด้านสุขภาพที่ดี 4 ด้าน ได้แก่

1. ด้านอาหารให้ถูกหลักโภชนาการกินครบ 5 หมู่ อย่างหลากหลาย ในสัดส่วนปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งเด็กอายุ 6 – 14 ปี ควรได้รับพลังงานเฉลี่ย 1,600 กิโลแคลอรี ในแต่ละวันควรกินข้าวหรือแป้ง จำนวน 8 ทัพพี เนื้อสัตว์ จำนวน 6 ช้อนกินข้าว ผักจำนวน 12 ช้อนกินข้าว นม 2 แก้ว และให้มีผลไม้ 6 – 8 ชิ้นพอดีคำทุกมื้อ

2. ลดหวาน มัน เค็ม หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น รวมทั้งเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน อาหารแช่แข็งพร้อมทาน ควบคุมการซื้อขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่มรสหวานจัด น้ำอัดลม ชานมไข่มุก และจัดเตรียมนมรสจืด และผลไม้ที่เด็ก ๆ ชอบไว้ในตู้เย็นแทน และให้ดื่มน้ำสะอาด 6 – 8 แก้วต่อวัน

3. ส่งเสริมให้เด็ก (อายุ 6-17 ปี) มีกิจกรรมทางกาย โดยส่งเสริมให้มีการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้มากขึ้น มีกิจกรรมทางกายในระดับปานกลางถึงหนัก หรือจนรู้สึกเหนื่อย เฉลี่ยอย่างน้อยวันละ 60 นาที ทุกวัน (สะสมต่อเนื่อง10 นาทีขึ้นไป) เช่น เต้นแอโรบิก วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก กระโดดตบ ซิทอัพ ดันพื้น แพลงค์ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ทำงานบ้าน งานสวน เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติมโตที่สมวัย มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และยังลดการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในอนาคต นอกจากนี้ การออกกำลังกายจะช่วยพัฒนาระบบกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ หัวใจ ปอด ให้แข็งแรง รวมไปถึงการสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคอ้วนในเด็ก และยังช่วยในเรื่องการเรียนรู้ ความจำ มีสมาธิดีขึ้น มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จิตใจแจ่มใส ช่วยผ่อนคลายความเครียด

4. ส่งเสริมการนอนหลับให้เพียงพอในเด็กและเยาวชน อายุ 6-13 ปี ควรนอนหลับวันละ 9-11 ชั่วโมง และอายุ 14-17 ปี ควรนอนหลับวันละ 8-10 ชั่วโมง จะทำให้เด็กและเยาวชนมีสุขภาพร่างกาย ที่แข็งแรง สูง สมส่วน

นอกจากส่งเสริมสุขภาพบุตรหลานแล้ว อย่าลืมใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเอง รวมถึงสมาชิกทุกคนในครอบครัว โดยเลือกกิจกรรมให้เหมาะสมตามวัยและสภาพร่างกาย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *