สิ่งแปลกปลอม หมายถึง วัตถุ เศษวัตถุ หรือสารใดๆ ที่เข้าไปในร่างกาย และทำให้เกิดอาการผิดปกติขึ้น ครอบครัวไหนมีเด็กหรือผู้สูงอายุอาศัยอยู่ในบ้าน เนื่องจากเด็กมีความซุกซนตามวัย ส่วนคนชราก็เป็นวัยแห่งความเสื่อมของสังขาร จึงเสี่ยงต่อการมีสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะตาและหู
สิ่งแปลกปลอมเข้าตา ได้แก่ ผงเล็กๆ ฝุ่นละออง ขนตา แมลงตัวเล็กๆ ผงดิน ทราย เศษไม้เล็กๆ อาจพบได้ที่บริเวณตาด้านนอก หรือหลังเปลือกตา ซึ่งจะทำให้เคืองตามากเมื่อถูกแก้วตา อาจทำให้กลายเป็นแผลกระจกตา หรือเชื้อโรคอาจลุกลามเข้าไปในลูกตาทำให้ลูกตาอักเสบ หรือตาเสียได้
การปฐมพยาบาลเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา
- ห้ามขยี้ตา
- ให้ลืมตาในน้ำสะอาดแล้วกรอกตาไปมา
- ถ้าผงยังไม่ออก ให้พลิกเปลือกตาบนหรือเปลือกตาล่าง โดยให้ผู้ป่วยมองลงข้างล่าง ส่วนผู้ดูแลให้ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ซ้ายจับเปลือกตาดึงลง แล้วพลิกขึ้น หรือใช้ไม้พันสำลีวางที่เปลือกตา แล้วพลิกเปลือกตาขึ้น ถ้าเห็นผงชัดเจนให้เขี่ยออกด้วยวัสดุที่อ่อนนุ่มและสะอาด
- ถ้าปฏิบัติตามวิธีข้างตนแล้วผงยังไม่ออก ให้ใช้ผ้าปิดตาแล้วไปพบจักษุแพทย์
- ถ้าเป็นเศษวัสดุแข็งและฝังอยู่บนแก้วตา ห้ามเขี่ยออกเอง ให้ใช้ผ้าปิดตาแล้วไปพบจักษุแพทย์
สิ่งแปลกปลอมเข้าหู ที่พบบ่อย ได้แก่ แมลง และไม้พันสำลี นกรณีมีภาวะแทรกซ้อน จะเกิดอาการปวดหู ช่องหูอักเสบ แก้วหูทะลุได้
การปฐมพยาบาลเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าหู
- ห้ามใช้ไม้พันสำลี ก้านไม้ขีดไฟ หรือวัตถุอื่นใด เขี่ยวัตถุออกเอง เพราะอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดลึกลงไปมากขึ้น จนเป็นอันตรายต่อแก้วหู และหูชั้นกลางได้
- ถ้าแมลงเข้าหู ให้หยอดด้วยน้ำมันพืชหรือน้ำมันมะกอก ปล่อยไว้จนแมลงหยุดดิ้น แล้วลองมองดูที่รูหู ถ้าเห็นตัวแมลงชัดเจนก็ใช้ปากคีบดึงออก ถ้าไม่ออกให้รีบมาพบแพทย์
- ห้ามใช้น้ำหรือน้ำมัน ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือของเหลวอื่นๆ ใส่ไปในรูหู โดยเฉพาะถ้าสงสัยว่า แก้วหูทะลุ เช่น มีเลือดออก มีน้ำไหล
- ถ้าเป็นวัตถุอื่นที่ไม่มีชีวิต ให้นอนตะแคงหูข้างนั้นลง ตบศีรษะด้านตรงข้ามเบาๆ
ในกรณีที่ปฐมพยาบาลแล้วไม่ได้ผล หรือมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหู มีเลือดไหล หูอื้อไม่ได้ยิน ควรรีบมาพบแพทย์หูคอจมูก ไม่ควรดันทุรังทำต่อเพราะอาจเกิดอันตรายได้ค่ะ